วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

[SS-spring]Real Fight!! (of my love)

มาต่อเล่าเนื้อเรื่องของเกมส์ Starry Sky In spring แล้วค่าาา
จริงๆตอนแรกก็คิดอยู่ว่าจะเอาดราม่าโยคุงมาแทรกดีมั๊ยน้า
แต่สรุปก็เอาเนื้อเรื่องต่อไปก่อน คราวหน้าค่อยแทรกแทรกสองของโยนะคะ

อ่า... ก่อนอื่น.. คราวที่แล้วลืมแปะไปน่ะค่ะ
เราเอารูปตอนเด็กของพ่อหนุ่มทั้งสามมาให้ดู(พอดีมีรูปตอนเด็กอยู่ในปกเกมส์ด้วย)
เห็นรูปแล้วแวบแรกคิดว่า... คานาตะหรอนั่น!?!! แอบอึ้งไปนิดนึง
แต่โยนี่หน้าไม่เปลี่ยนเลยน้า ฮะๆ อ้อ มีรูปเราอยู่ในนั้นด้วยนะ เห็นป่าว ข้างๆสุซุยะน่ะ
 
(กดที่รูปเพื่อขยายขนาดให้เป็นภาพใหญ่ขึ้นอีกหน่อยได้นะ)


วันนี้เราไปอ่านหนังสือกับสุซุยะ ขากลับก็นึกขึ้นได้ว่า วันนี้วันเกิดคานาตะ!
"ตัวเจ้าของวันเกิดเองก็คงลืมไปด้วยซ้ำ"
 จากนั้นก็จะพูดคุยเรื่องอื่นกันต่อ มีหลายเรื่องน่ะนะ อย่างเช่น...
สุซุยะจะบอกว่า คานาตะเหมือนแมว เพราะไม่ชอบให้ใครเข้ามาในอาณาเขตตน
เพราะงั้นเลยไม่ชอบโย แต่สุซุยะก็จะสารภาพว่า ความจริงเขาก็ลำบากใจนิดหน่อย
เพราะเขาชอบช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกันสามคน (<--นายเองก็เป็นแมวสินะ ฮะๆๆ)
แล้วช่วงนี้ก็จะได้รู้เรื่องสุซุยะมากขึ้น ที่เขากลัวทุกสิ่งจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
กับเรื่องสมัยเด็กของโย เราจะบอกว่าโยมักโดนแกล้งเพราะความที่เป็นลูกครึ่ง

วันหยุดฤดูร้อนมาถึง แต่เราก็ยังต้องมาโรงเรียนเหมือนเดิม เพราะว่า...
คานาตะต้องมาเรียนซ่อม!! คานาตะจะบอกว่าพวกเธอไม่ต้องมาอยู่ด้วยก็ได้
แต่สุซุยะจะบอกว่าถ้าไม่มาด้วย เดี๋ยวคานาตะก็ต้องหนีเรียนแน่ๆ
"ถึงจะพูดไปอย่างนั้น แต่จริงๆก็แค่ พวกนายไม่อยากจะห่างจากชั้นใช่มั๊ยล่ะ"  

วันต่อมาขณะเราไปเดินเล่น มองไปเห็นคานาตะ กำลังจะทัก เราดันเจออันธพาลเข้า
แล้วคานาตะก็เลยต้องมาช่วย ตอนนั้นเขาก็สังเกตเห็นแผลที่เราล้ม(เกิดจากอันธพาล)
"เฮ้ เธอ... เลือดออกนี่นา! มะ... ไม่เป็นไรนะ? ไม่มีบาดเจ็บตรงไหนอีกนะ..
พวกแก!!!"  คานาตะหันกลับไปหาพวกอันธพาล เห็นอย่างนั้นพวกนั้นเลยรีบวิ่งหนีไป

คานาตะพา(อุ้ม)เราไปห้องพยาบาล แต่อาจารย์ดันไม่อยู่ เขาเลยทำให้เอง
เราจะแปลกใจว่าทำไมเขาพันแผลได้สวยจัง
คานาตะเองก็จะบอกว่าเพราะเขามีแผลบ่อย ทำให้ทำแผลเก่งไปแล้วด้วย(ดูมาเยอะ)

"เอ่อคือ... ขอโทษนะ"
"เอ๋ ทำไมอยู่ๆถึง"
"ถ้าชั้นรู้ตัวเร็วกว่านี้ว่าเธออยู่ตรงนั้น เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น"
แม้เราจะบอกว่าไม่ใช่ความผิดเขา แต่เขาก็ยังดูรู้สึกผิด
ก่อนจะจากไป คานาตะก็หันกลับมามองเรา
 
 "อ่า...แล้วก็... ถ้ามีเจ้าบ้าที่ไหนแปลกๆเข้ามาเรียกเธออีกล่ะก็..
รีบเรียกหาชั้นเลยนะ! ปะ... ไปล่ะ"

วันต่อมา ขณะที่กำลังคุยกับคานาตะและสุซุยะ เราก็นึกถึงโยขึ้นมา
ก็เลยขึ้นไปเคาะประตูห้องโย เพราะกลัวว่าจะเหงาอยู่คนเดียว แต่กลับดูเหมือนไม่อยู่

พอเรียนจบ คานาตะก็ถามขึ้นว่าเราไปไหนมา เราก็บอกว่าไปห้องโยก็เลยโดนว่า
"ธะ... เธอเนี่ยนะ! อย่าขึ้นไปหอพักชายคนเดียวแบบนั้นสิ!!
ถะ.. ถ้ามีอะไรก็เกิดขึ้นล่ะก็.. จะ.. จะทำยังไงเล่า!!!" 
"คิดมากเกินไปอะไรกันเล่า!! สถานที่ที่มีแต่ผู้ชายน่ะ ไม่ใช่ที่ๆผู้หญิงคนเดียวจะไปนะ!!"
"ว่าแต่ เธอน่ะแหล่ะ ควรจะคิดให้มากกว่านี้นะ แล้วก็ระวังตัวให้มากๆๆขึ้นด้วย!"
หลังโดนเทศนาไปเสร็จ สักพักเราก็บอกว่าจะไปที่ห้องเรียนให้กลับไปกันก่อน

ที่ห้องเรียน เราก็เจ๊อะกับโยคุง พอบอกว่าเมื่อเช้าไปหาที่หอพักมา โยก็พูดว่า
"อาจารย์เรียกไปพบน่ะ... มาเรียกหาผมหรอ ขอโทษนะ"
(พออ่านถึงตรงนี้แอบนึกไปถึงคานาตะคุง ถ้าเป็นหมอนั่นคงจะว่าเรากลับแน่เลย
ว่าแบบเจ้าประโยคบนๆนั่นน่ะ เทศนาเราซร้าาา ฮะๆๆ แต่เราชอบนะ อิอิ ดูเป็นห่วงเราดี)
ช่วงนี้ก็จะคุยกันเรื่องโยที่ดูเหงาๆ และชักจูงให้โยเป็นเพื่อนกับทั้งสามคนดีกว่า
"ถ้าให้ทั้งสองคนนั้นเป็นห่วงก็คงจะไม่ดี กลับกันดีกว่านะ"
"สองคนนั้นบอกว่าจะกลับไปก่อนแล้วล่ะ"
"อย่างสองคนนั้นน่ะ ไม่มีทางปล่อยเธอเอาไว้แล้วกลับไปก่อนหรอก... ดูสิ"
 แล้วโยก็เปิดประตูออก ปรากฏว่าสุซุยะกับคานาตะยังยืนรอเราอยู่ (โอ๊ะ ตกใจค่ะ)
"เอ๋? ทะ.. ทั้งสองคน"
"คานาตะน่ะ เขาเป็นห่วงเธอ.. เพราะงั้นไม่ว่ายังไงก็.."
"บะ..บ้าเหรอ พูดออกไปทำไมเล่า"
แล้วคานาตะก็จะบ่นว่า ฮิทสึจิก็อยู่ด้วยจริงๆด้วย ทั้งที่อุตส่าห์ดีใจที่ไม่ต้องเจอหน้า
"ถึงจะพูดแบบนั้น แต่เมื่อเช้าเห็นตามหาโทโมยะคุงอยู่ตลอดเลยนี่"
"ฟุๆ ว่าแล้วเชียว"
"เอ๋"
"สุ.. สุซุยะ เรื่องไม่สำคัญแบบนั้นไม่ต้องพูดน่ะ!"
ว่าแล้วคานาตะก็เริ่มแก้ตัว
"เพราะว่าพอฮิทสึจิไม่อยู่ทำให้รวบรวมสมาธิกับการเรียนได้ดีขึ้น ก็เลยตรวจสอบให้แน่ใจ(ว่าไม่อยู่จริงๆ)ก็เท่านั้นเอง!"
"ครับครับ ปล่อยให้เป็นแบบนั้นไปก็แล้วกัน ให้ตายสิ ดื้อจริงๆน้า คานาตะเนี่ย"
"กะ... ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่!"

วันต่อมา โยมีเรื่องทะเลาะกับคานาตะอย่างรุนแรง
ตรงนี้น่ะ เรื่องจริงๆเกิดจากคานาตะพูดจาทำร้ายจิตใจโยก่อนล่ะค่ะ
(แต่จริงๆคนเริ่มหาเรื่องมันก็โยล่ะนะ ฮะๆๆ จริงๆก็เหมือนๆกับทุกที
แต่คราวนี้ไม่รู้คานาตะเกิดเดือดมาจากไหน อาจจะทนไม่ไหวแล้วมั๊งเลยพูดว่ากลับแรง)
ก็คือคานาตะจะพูดประมาณว่า โยน่ะจริงๆแล้วจะรู้จักกับเราจริงรึเปล่าก็ไม่รู้
ที่จริงก็แค่เพราะเห็นเราเป็นผู้หญิงคนเดียวในโรงเรียนก็เลยสนใจและมาตีสนิทมากกว่า
ซึ่งทำให้โยโกรธ เขาจะบอกว่าไม่คิดจะให้คนอื่นมาเข้าใจความรู้สึกของเขา(ที่มีต่อเรา)หรอก
แต่การมาพูดแบบนี้ มาดูถูกความรู้สึกของเขา(ที่มีต่อเรา) เขายอมไม่ได้
แล้วเราก็จะเข้าไปปกป้องคานาตะ โยก็อึ้งว่าทำไมเราปกป้องคานาตะล่ะ
 (แหมๆ อย่าเศร้าน่าโย ก็ช่วยไม่ได้ เรามาตามรูทคานาตะอยู่นี่ ^^"
แต่พูดจริงๆแล้ว ตอนนั้นรู้สึกอยากห้ามทั้งคู่มากกว่า เพราะใจเราคิดว่าคานาตะน่ะผิด
แต่ก็อีกนั่นล่ะ... หลังจากเล่นๆไปต่อ... ใจเริ่มเอนเอียงไปหาคานาตะ ฮะๆๆๆๆ
ก็คานาตะน่ะ พอโดนว่ามากๆก็ทำหน้าเจ็บปวด แล้วก็พูดพึมพำประมาณว่า
ก็ถ้ามันแตกสลายไปล่ะ... คือจำคำพูดไม่ได้แล้วล่ะ แต่ความหมายของเขาก็คือ
เขาน่ะ กลัวว่าความสัมพันธ์ของพวกเราสามคนจะแตกสลายไปเมื่อมีโยโผล่มา
ก็เจ้าคำพูดกับท่าทางนั้นของคานาตะนี่ล่ะ ที่เรากลับมาเห็นใจคานาตะ ฮะๆๆๆ)

หลังจากนั้น... คานาตะก็จะรีบวิ่งหนีไป (หมอนี่น่ะ จอมหนีเลยล่ะ ไม่พอใจก็เดินหนี)
เราก็อยากจะไปตาม แต่ปรากฏว่าโดนสุซุยะห้ามไว้ จำไม่ได้แน่นอนรู้สึกจะห้ามโดยบอกว่า
คานาตะเขาบอกว่ายังไม่อยากเห็นหน้าเราไม่ใช่หรอ ประมาณนั้นล่ะถ้าจำไม่ผิดนะ
แต่จริงๆคำพูดมันไม่แรงขนาดนี้หรอกมั๊งนะ ยังไงก็ตาม...อุตส่าห์อยากจะรีบไปตาม
ดันโดนห้ามด้วยคำพูดแบบนั้น ก็ทำเราสะอึกสิคะ ก็เลยไม่ตามก็ได้ T^T

ตอนดึกขณะที่กำลังคิดหาวิธีคืนดีกัน เราเลยไปเดินเล่น แล้วก็เจอคานาตะ
พอเราถามว่ามาทำอะไรคนเดียว ก็โดนถามกลับ เราเลยตอบไปว่า
"เดินเล่น"
"พูดอะไรน่ะ!! ถ้ามีพวกบ้ากามโผล่มาล่ะก็ แย่เลยนะ!"
หลังจากเทศนาเราเสร็จ คานาตะก็พูดต่อว่า... 
"ขอโทษ..."
"อยู่ๆพูดอะไรน่ะ"
"เรื่องก่อนหน้านี้น่ะ ขอโทษนะ ที่ทำตัวเป็นเด็ก"
เราก็จะบอกว่าไปขอโทษโยดีกว่า แต่คานาตะก็จะบอกว่ารู้อยู่แล้วน่ะ
แต่ลำบากใจในการพูด ประมาณว่าหาเวลาดีๆบอกไม่ได้
"ชั้นเองก็ไม่ได้เกลียดเขาหรอก"

พอจะกลับ คานาตะเห็นเราใส่เสื้อแค่ตัวเดียว เลยถอดเสื้อมาให้
"แต่ว่าแบบนี้ เดี๋ยวคานาตะก็เป็นหวัดหรอก"
"เวลาแบบนี้น่ะ ต้องเงียบๆ และพูดแค่ ’ขอบคุณ’ ก็พอแล้ว"
พอเราพูดจริงๆ อีตานี่กลับตกใจเขินขึ้นมา
"ยะ... อยู่ดีๆทำไมว่าง่ายขึ้นมาล่ะ"

 หลังจากกลับห้อง เราก็นึกวิธีให้ทั้งสองคืนดีกันได้คือ
จัดงานปาร์ตี้ฉลองวันเกิด(ย้อนหลัง)ให้คานาตะดีกว่า

 วันต่อมา ก็ทำอาหารกันมามากมาย มาดูดอกซากุระกัน แล้วก็ชวนคู่กรณีทั้งสอง
คานาตะมาเห็นก็ถามว่าวันพิเศษหรอ? ปรากฏว่าคานาตะลืมวันเกิดตัวเองไปแล้วจริงๆด้วย
"อ๊ะ จะว่าไป.. นี่ชั้นอายุเพิ่มขึ้นอีกปีแล้วสินะ  อ่า.. ขอบคุณ ชั้นเองลืมไปแล้วนะเนี่ย"
พอโยมา ตอนแรกก็ยังเคืองๆกันอยู่ แต่สุดท้ายก็คืนดีกัน เพราะ....
ของขวัญวันเกิดที่โยให้คานาตะคือ "ขนม" ทำเอาคานาตะหัวเราะใหญ่ บอกว่าเหมือนเด็กๆเลย
"ขอโทษ" คานาตะหันไปขอโทษโย
"เป็นเพราะชั้นกลัวว่าการที่พวกเราสามคนอยู่ด้วยกันมันจะพังทลายไป"
 "แต่ความจริงแล้ว ไม่ใช่ว่าความสัมพันธ์ของเราสามคนจะพังทลายไป
แต่เป็นการให้ฮิทสึจิเข้ามาเพิ่มอีกคน มีสมาชิกใหม่เพิ่มอีกคนต่างหาก"
โยก็ขอโทษกลับ เพราะตอนแรกเขาคิดว่าการมีความสัมพันธ์กับคนอื่นมันไม่จำเป็น
แล้วทั้งสองคนก็คืนดีกัน.... แต่ก็แค่แป๊บเดียว ^^"
หลังจากนั้นก็มาทะเลาะกันเพราะของกินแทนค่ะ ฮะๆๆๆ
แต่ก็สามารถหยุดได้ด้วยคำพูดของสุซุยะคุงที่ว่า...
"ถ้าเบนโตะของเขาเป็นต้นเหตุให้ทะเลาะกันล่ะ คราวหลังไม่ทำมาแล้วดีกว่า"
หลังจากนั้นพวกเขาก็ตกลงกันว่าจะเรียกชื่อแทนกันจากนี้ไป

วันเอพริลฟูล!!! คานาตะกับโยตกลงกันว่าจะแกล้งสุซุยะดีกว่า
โดยจะแกล้งให้โยไปบอกสุซุยะว่าเราเป็นลมล้มไป และให้เรากับคานาตะอยู่ที่ห้องพยาบาล
เพื่อให้คานาตะโผล่มาทำให้ตกใจตอนสุซุยะมา
แต่พอสุซุยะมา เราต่างกำลังอึ้งกับท่าทีของสุซุยะที่เป็นห่วงเรามากๆ
(คือท่าทางที่ต่างไปจากปกติของหมอนี่ นี่ล่ะเหตุการณ์ที่ทำให้เราเริ่มสนใจหมอนี่)
ก็เลยนิ่งไป แล้วเราก็จะขอโทษสุซุยะ แต่สุซุยะจะไม่ว่าอะไร
กลับกัน จะหันไปเล่นงานโยกับคานาตะ แม้จะอ้างว่าวันนี้ห้ามโกรธนะเพราะเอพริลฟูล
แต่สุซุยะก็บอกว่านั่นเพราะเราแกล้งหลอกอะไรที่ไม่ควรหลอก
คานาตะก็จะบอกว่าเพราะเรื่องนี้จะทำให้สุซุยะตกใจมากที่สุดนี่นา
สุดท้ายทั้งสองก็โดนสุซุยะเทศนาไปยกใหญ่

วันหนึ่ง คานาตะไม่อยู่ เราถามสุซุยะเขาก็บอกว่าไปห้องพยาบาล
เราก็เลยรีบตามไปด้วยความเป็นห่วง แต่คานาตะเมื่อเห็นเราเป็นห่วงลำบากใจ
"ชั้นเป็นห่วงนะ"
"ก็ถึงได้บอกไงว่าไม่ต้องเป็นห่วง"
"การที่เธอรีบมาหาด้วยความเป็นห่วงน่ะ ก็ดีใจอยู่หรอก แต่ว่า..."
"แต่ชั้นน่ะ... เพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น.. ไม่อยากทำให้ต้องเป็นห่วง"
"คานาตะ? ทำไ.."
เสียงเปิดประตูดังขึ้น พร้อมร่างของเพื่อนอีกสองคน

"ทุกคนน่ะ เป็นห่วงกันมากไปแล้ว"
แล้วคานาตะก็บอกว่าจะขอตัวรีบกลับก่อน
จากนั้นสุซุยะก็จะเล่าให้โยฟังถึงร่างกายคานาตะว่าไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก
ไม่สบายบ่อย จนพูดได้ว่า ไม่รู้ว่าคานาตะจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ไหมด้วยซ้ำ
แต่ช่วงหลังร่างกายดีขึ้นมากแล้ว เลยเผลอคิดไปว่าหายแล้ว...
"เพราะไม่อยากให้เธอเห็นสภาพแบบนั้นสินะ เลยกลับก่อน"
"สาเหตุที่คานาตะชอบชกต่อยก็เกิดจากเหตุผลนี้ เพราะมันทำให้ลืมไปว่าเขานั้นไม่สบายอยู่"

วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะค้าาา ไปกินข้าวก่อนล่ะ ไว้ต่อวันหน้าจ้า!!
จะว่าไป.. รู้สึกช่วงนี้เราอัพถี่มากเลย ฮะๆๆๆ
แต่หลังจากนี้อาจจะเริ่มอัพช้าลงเป็นอาทิตย์ล่ะครั้งแล้วล่ะค่ะ

ก่อนจาก ขอแอบพูดนิดนึง (อีกแล้ว) เฮะๆ
เรื่องของสุซุยะคุงน่ะค่ะ นอกจากเรื่องเอพริลฟูลแล้ว...
จริงๆมีอีกเหตุการณ์นึงที่ทำให้เราเริ่มชอบหมอนี่มากขึ้น
คือตอนนั้นเราคุยๆกับสุซุยะถึงเหตุผลที่เขาทำอาหารเก่งน่ะ
แล้วเขาจะบอกว่าเป็นเพราะเขาอยากทำอาหารอร่อยๆให้พวกเราสองคนกิน
เพราะตอนดูดาวครั้งแรก ตอนนั้นหิวกันมาก แล้วพอเขาทำข้าวปั้นมาให้
พวกเราก็กินกันอย่างหน้าตามีความสุข แล้วทีนี้คำพูดที่ทำให้เราปิ๊งคือ
หลังจากชมสุซุยะ เราก็จะพูดว่าเราทำอาหารไม่ค่อยเป็น เขาก็เลยบอกว่าไม่เป็นไร
เพราะเขาจะเป็นคนทำอาหารให้เราตลอดไปเอง เพราะงั้นไม่ต้องห่วงหรอก
พอฟังคำพูดนี้แล้วเราก็เลยแอบรู้สึกถึงคำพูดที่แอบอบอุ่นนิดๆน่ะค่ะ
แล้วก็รู้สึกว่า ดีจังเลยน้า ผู้ชายที่ทำอาหารเก่งเนี่ย อยากแต่งงานด้วยแล้วสิ ฮะๆๆๆๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น