Otometeki Koi Kakumei LOVE REVO!! First Stage
จากเกมส์
หมายเหตุ... เหมือนเดิมนะคะ เราไม่เก่งภาษาญี่ปุ่นนะ!!!
อาจจะมีมั่วเล็กน้อย และตัดเนื้อหาไปหลายส่วน เอาแค่บางส่วน
เพราะงั้นรีวิวที่เราเขียนนี้ไม่ชัวร์100%นะ
ถ้าใครเห็นข้อผิดพลาดตรงไหน ก็รบกวนช่วยแก้ไขให้ด้วยนะคะ ขอบคุณจ้า
บทนำเนื้อเรื่อง...
เรื่องมันเริ่มจากการหาคนมาช่วยแสดงละคร โดยตัวนางเอกก็คือเราค่ะ
เริ่มเรื่องคืออีตาเซนเซย์เนี่ย เขาให้เลือกตัวคนแสดงจากการเป่ายิ้งฉุบกัน
แล้วเซนเซย์ก็จะแอบบ่นว่า ไม่นึกว่าเขาจะแพ้น่ะเนี่ย
อีตาเรนก็เลยบอกว่า เขาถึงได้บอกไงว่าไม่ควรจะตัดสินด้วยวิธีนี้ แล้วก็บ่นๆๆ
ส่วนคาเอดะก็มีแอบบ่นๆว่ากังวลจัง ไม่รู้จะทำได้ดีไหม
ในขณะที่น้องโชตะที่รักบอกว่าดีนะที่มีเราเป็นนางเอก
ก็พูดๆคุยๆมีชมเรากันนิดหน่อยว่าเราขยันมาฝึกซ้อมมากเลย
เข้าสู่เนื้อเรื่องกันเลยดีกว่า...
Track 02
"เจ้าหญิง ท่านจะจำได้รึเปล่านะ วันแรกที่เราเจอกัน ในสวนคืนนั้น..."
ตัวเจ้าชาย(เรน)หลบหนีจากความวุ่นวายของปาร์ตี้
เดินไปที่สวนดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและความเงียบสงบ ราวกับอีกโลกหนึ่ง
ตรงหน้านั่น ดวงตาเขาสบกับหญิงสาวผู้งดงามที่ยืนอยู่ตรงนั้นเพียงคนเดียว
"ใช่แล้ว... นั่นคือเธอยังไงล่ะ"
จากนั้นท่านเจ้าชายก็พรรณาความรู้สึกต่อเรา(มายาวยืด)
"ฉันไม่สามารถถอนสายตาไปจากเธอได้เลย...
ใช่แล้ว... แค่เพียงได้พบหน้า ฉันก็ได้ตกหลุมรักเธอไปซะแล้ว"
"เหตุบังเอิญนี้ จะเป็นพรหมลิขิต หรือสิ่งที่พระเจ้าดลบันดาลกันนะ?
แต่สำหรับฉันแล้วจะเป็นอะไรก็ไม่ว่า ฉันก็แค่รู้สึกขอบคุณ
ขอบคุณที่ทำให้ฉันได้พบและรู้จักกับเธอ"
"ทุกอย่างของเธอ... ฉันไม่อยากให้เธอกับใคร"
"ถ้าเป็นจริงได้... ฉันจะเข้มแข็งขึ้นอีกเพื่อเธอ เพื่อให้เธอไม่รู้สึกอาย"
"คนที่เข้ามาขวางทางพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นใคร ฉันจะไม่ให้อภัย แม้แต่พระเจ้าก็ตาม"
(ชอบน้ำเสียงตอนนี้ของเรนจัง แอบดาร์คดี ฮา)
(จากนี้ก็จะแอบมีเข้าโหมดดาร์คอีกเป็นช่วงๆ)
แรกๆก็บอกว่าเราเป็นนางฟ้า มีรอยยิ้มที่ดึงดูดทุกคน
ไปๆมาๆก็บอกว่า... หรือจริงๆแล้วตัวเราที่มาขโมยหัวใจเขา
จริงๆแล้วไม่ใช่นางฟ้า แต่เป็นซาตานในร่างนางฟ้าต่างหาก
รู้สึกพอใจแล้วรึยังล่ะ?
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น...
ถ้าเป็นเธอล่ะก็.. แม้จะต้องแลกด้วยวิญญาณของฉันเองก็ฉันก็ยอม
ถ้าจะทำให้เธอเป็นของๆฉันเพียงคนเดียวได้ล่ะก็...
ถ้าจะทำให้ภายในดวงตาคู่นั้นมีฉันอยู่ได้ล่ะก็...
ไม่มีสิ่งใดสามารถชนะเธอได้
ฉันสามารถทิ้งทุกอย่างได้เพื่อเธอ
"ใช่แล้ว... เพราะสำหรับฉัน.. ไม่มีอะไรแทนที่เธอได้ยังไงล่ะ"
แต่สำหรับเธอที่มีอิสระแล้ว สักวันก็คงจะไปจากฉัน
เมื่อคิดอย่างนั้น ใจฉันมันก็ปั่นป่วนไม่เป็นสุข
จากนั้นเจ้าชาย(เรน)ก็พยายามคิดหาทางกำจัดปีกคู่นั้นของนางเอกไป
แต่เหมือนจะไม่ได้ทำอะไรนะ เพราะกลัวจะไม่ให้อภัยเขามั๊ง?
จากนั้นเลยภาวนาขอให้ปีกคู่นั้นบินกลับมาหาเขา
ขอให้สุดท้ายสถานที่เราจะกลับไปคืออ้อมแขนของเขา บลาๆๆ
"เอาล่ะ เจ้าหญิง ฉันมารับแล้ว กลับไปยังคืนนั้น(ที่เราได้พบ)กันเถอะ"
"สวนแห่งความลับของเราทั้งคู่"
"และสุดท้าย ได้โปรด อย่าปล่อยมือคู่นี้ไป"
"นางฟ้าที่รักของฉัน"
จบพาร์ทของเรนไปอีกหนึ่ง ต่อพาร์ทต่อไปนะคะ...
Track 03
น้องโชตะที่น่ารัก เริ่มแรกก็เล่าชีวิตของเขา ประมาณว่าอยู่ในร้านดอกไม้(มั๊ง)
ก็เล่าว่าฤดูต่างๆก็ทำอะไรบ้าง แล้วก็บอกว่าแม้จะเป็นลูกคนเดียวแต่ก็ไม่เหงา
เพราะว่าเขามีเพื่อนมากมายอยู่ในธรรมชาตินี่เอง
แต่แล้ววันนึง อยู่ดีๆเราก็ปรากฏตัวออกมา
"หญิงสาวแสนสวยสวมชุดเดรสสีขาว เปล่งประกายราวกับมีแสงทอระยิบระยับ
ผมไม่เคยเห็นหญิงสาวแสนสวยที่ราวกับออกมาจากในความฝันเช่นนี้มาก่อน
เพราะงั้น ตอนแรกที่เธอเดินเข้ามา ผมนึกว่าเธอเป็นเทพธิดาแห่งดอกไม้ซะอีก"
"แต่พอมองเธอดีๆ ก็ได้รู้ว่าจริงๆแล้วเธอไม่ใช่เทพธิดาซะหน่อย
หรือว่าจริงๆแล้วนี่เป็นความฝันกันนะ...
ถ้าเป็นความฝันแล้วล่ะก็... ขอให้หยุดเวลาไว้ตรงนี้ ไม่ต้องลืมตาตื่นขึ้นเถอะ
ถ้าได้เจอกับเธอแล้วล่ะก็... ต่อให้ผมไม่ต้องลืมตาตื่นขึ้นอีกเลยก็ไม่ว่า
ผมคิดอย่างนั้นจากใจจริง"
"แต่ว่า... ตอนที่ผมคิดอย่างนั้น มือที่อ่อนนุ่มของเธอก็สัมผัสกับผม
ตอนนั้นผมถึงได้โล่งใจว่าเธอมีตัวตนจริงๆ"
จากนั้นโชตะก็เฝ้ารอเราปรากฏตัวอยู่ที่ร้านตลอดเวลา
มีทั้งช่วงเวลาที่มีความสุขเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเธอที่มีความสุขกับดอกไม้
มีทั้งช่วงเวลาที่เหงาๆ และผิดหวังเมื่อเธอไม่มา
แต่แล้วเขาก็ได้มารู้ความจริงว่า ที่จริงแล้วเธอเป็นเจ้าหญิง
แล้วอยู่มาวันนึง เธอก็ไม่ปรากฏตัวขึ้นอีกเลย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
"แต่ว่า ถึงตอนนั้น ผมก็ไม่สามารถลืมรอยยิ้มของเธอไปได้ซะแล้ว
ทั้งเศร้า เสียใจ เจ็บปวด ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกนี้ยังไง"
"ถ้าเธอเป็นเพียงเด็กผู้หญิงธรรมดาจะดีแค่ไหนกันนะ"
แล้ววันนึง พวกดอกไม้ ก็พูดกับเขาว่า
"ไม่ทำตามหัวใจของตัวเองไม่ได้นะ
สิ่งสำคัญไม่ใช่เรื่องของฐานะ แต่คือความรู้สึกของตัวเองมีมากแค่ไหนต่างหาก"
"ตอนนั้นผมถึงได้รู้ตัว และตัดสินใจว่า ผมต้องการบอกความรู้สึกของผมให้เธอรู้"
โชตะก็จะถามว่า เธอชอบดอกไม้แบบไหนกันนะ ก็นั่งพรรณาดอกไม้
"แต่ว่าดอกไม้ที่ผมจะให้เธอ จะไม่สามารถลืมได้แน่นอน
ดอกไม้แห่งตำนานแสนเศร้า อาไวน์บลูคาเลนเดอร์ (ไม่ชัวร์ชื่อดอกไม้อย่างแรง ฮะๆ)
ตามตำนานแล้ว ทั้งคู่จากกัน(ถูกฟันมั๊ง?)ก่อนที่จะให้ดอกไม้คู่นี้
แต่ผมจะนำดอกไม้นี้ไปยื่นให้ถึงมือเธอแน่นอน"
"ดอกไม้นี้จะบอกความรู้สึกของผม
ถ้าเธอได้เห็นดอกไม้นี้ เธอคงจะนึกถึงผม และรู้ถึงความรู้สึกของผม
แล้วมันจะอยู่ในใจเธอตลอดกาล"
จบพาร์ทของโชตะไปอีกหนึ่ง
ต่อมาก็เป็นของโทคิตะกับเซนเซย์ค่ะ
หมายเหตุ... รอบนี้เหมือนจะแอบตัด+มั่วมากกว่ารอบที่แล้วรึเปล่านะ (ฮา)
ก็ดราม่าซีดีอันนี้มันเน้นพรรณาโวหารกันซะเหลือเกิน >0<
Track 04
เริ่มเรื่องกล่าวถึงหนุ่มน้อยที่ใช้ชีวิตอยู่กับสายลมและดวงดาว
เขาไม่เคยคาดหวังสิ่งใด ไม่ได้ต้องการสิ่งใด
วันๆนึง เขาก็แค่ร้องเพลงตามที่ใจต้องการอย่างไม่มีจุดมุ่งหมาย
อยู่มาวันนึง ขณะที่เขากำลังร้องเพลง ก็ได้ยินเสียงปรบมือ
ด้วยความตกใจ เขาจึงเงยหน้าขึ้น และสบตากับดวงตาคู่หนึ่ง
"ใช่แล้ว คนๆนั้นก็คือเธอ..."
"เธอช่างราวกับเทพธิดา ราวกับหิมะที่หลงทางมาจากท้องฟ้า
เมื่อสัมผัสกับมือของเธอ ก็ราวกับมีแสงอาทิตย์ส่องสว่างขึ้นมา
มันทำให้ฉันไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้"
เธอลงมานั่งข้างกายเขา
ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาและพูดว่า
"อยากฟังเพลงของเธออีกจัง"
เธอทำให้พูดอะไรไม่ออก ราวกับคำพูดถูกช่วงชิงไป
(ทำให้กระทั่ง) ฉันลืมตัวตนของตัวเองไป
เธอฟังฉันร้องเพลงอย่างมีความสุข
แค่นี้ก็ทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขได้มากขนาดนี้แล้ว
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะร้องเพลงให้ใคร ฉันก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน
ตอนนี้ แค่เธอฟัง(เพลงของฉัน) แค่นี้ก็ดีแล้ว... คิดอย่างนี้จากใจจริง
"ถ้าเป็นความปรารถนาของเธอ ไม่ว่าอะไรฉันก็จะทำให้อย่างที่ต้องการ"
"แต่ว่า... สำหรับตัวฉันที่ไม่เคยรู้จักคำว่าความรักมาก่อน
ทำให้ไม่รู้จะพูดคำหวานๆอย่างไรให้เธอฟังดี
เพราะฉะนั้น อย่างน้อย โดยไม่ทำให้เธอรังเกียจ
แค่ได้ร้องเพลงให้เธอฟังแบบนี้ก็ดีแล้ว"
"ตอนที่เธอมีความสุข ก็จะร้องเพลงที่สดใสเปล่งออกมาจากหัวใจ
ในตอนที่เธอเศร้า ก็จะค่อยๆร้องเพลงที่อบอุ่น(ปลอบโยนเธอ)
ถ้าคำพูดของฉัน ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขสักเล็กน้อยแล้วล่ะก็
แค่นั้นก็เป็นความสุขสำหรับฉันแล้ว"
"ใช่แล้ว... สำหรับฉันแล้ว เธอเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ที่คอยค้ำจุนฉัน"
"แต่สักวัน เธอก็คงจะทำให้ฉันเจ็บปวด
ถ้าต้องมารู้สึกเรื่องเหล่านี้
ไม่มีใครทำให้ฉันกลับไปมีอิสระ กลับไปเป็นฉันคนเดิม
ที่วันๆไม่ต้องคิดอะไร อยู่กับเพียงสายลมและดวงดาว
อยู่เพียงคนเดียวโดยไม่ต้องรู้จักความเจ็บปวด แบบตอนนั้นได้หรอ?"
"แต่.. ฉันรู้ดี ตัวฉันที่อ่อนแอ ไม่มีความกล้าพอจะแย่งชิงช่วงเวลาของเธอ
เพราะฉะนั้นฉันจึงได้แต่ยอมรับมันเท่านั้น"
"ฉันไม่ได้ต้องการรับรู้อะไรมากมาย
ขอแค่เธอมาอยู่ข้างๆ และคอยฟังเพลงของฉันอยู่ข้างๆตลอดไปก็พอ
ขอแค่ความปรารถนานี้ให้เป็นจริง"
"บางที สักวันฉันอาจจะทำร้ายเธอก็ได้ เพราะฉันไม่มั่นใจในตัวเอง
แต่ก็ยังคงภาวนาต่อไป ขอให้ช่วงเวลานี้เป็นไปตลอดกาล"
"ถ้าเธอต้องการล่ะก็ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะร้องเพลงนี้ต่อไป
ถึงแม้เสียงของฉันจะพังไป ถึงแม้ ฉันจะไม่สามารถบอกความรู้สึกนี้ออกไปได้
เพื่อให้หัวใจของฉันส่งไปถึงเธอได้"
"ผู้ฟังคนพิเศษเพียงหนึ่งเดียว เพื่อเธอคนสำคัญ"
"เพราะฉันต้องการให้เธอฟังเสียงของฉัน"
ต่อด้วยพาร์ทต่อไป
Track 05
"การที่ฉันมาได้รู้จักกับเธอ มันไม่ใช่ความบังเอิญ"
"มันต้องเป็นสิ่งที่กำหนดมาก่อนที่พวกเราจะเกิดมาแล้วแน่ๆ"
ตอนนั้น.. ตัวฉันที่เป็นโจรสลัดท่องอยู่ในท้องทะเลโดยไม่ได้ขึ้นบกมานาน
ขณะที่กำลังดื่มเหล้าฉลองกับพวกเพื่อนพ้อง(บนบก?)
ก็มีเจ้าหญิงจากไหนไม่รู้เดินเข้ามา เห็นอย่างนั้นจึงรู้สึกอยากไปดู
"สวย" นั่นเป็นสิ่งเดียวที่รู้สึก
และในคืนต่อมา เขาลอบเข้าไปแล้วก็ถูกพบตัวโดยเธอ
เขาได้เจอเหตุการณ์ที่ทำให้ประทับใจเธอ(ซึ่งเราแปลไม่ออกง่ะ งงๆ)
และรู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่งดงามเปล่งประกายยิ่งกว่าเพชรพลอยใดๆ
"ไหนๆก็จะขโมยอยู่แล้ว ขโมยเพรชพลอยแบบนี้ดีกว่า"
"ดังนั้นฉันเลยตัดสินใจว่า...
ไม่ยังไงฉันก็จะทำให้เธอเป็นของฉันให้ได้ อย่างแน่นอน"
หลังจากหนีมา ฉันก็ตามหาเธอตลอด
"เธอคงจะไม่เข้าใจสินะ ว่าฉันรู้สึกเสียใจในภายหลังมากแค่ไหน"
บนเรือที่เดินทางออกไป สิ่งที่ฉันคิดมีเพียงอย่างเดียว
"ใช่แล้ว จากนี้ สิ่งที่ฉันต้องการมีเพียงเธอเท่านั้น"
"ฉันเองก็ไม่คิดว่าจะไล่ตามเธอได้มากขนาดนี้ แต่ก็ช่วยไม่ได้นะ
เพราะฉันต้องการเธอ ก็แค่นั้นเอง ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลอื่น"
"ที่ผ่านมา ไม่ว่าสิ่งใดที่ฉันต้องการ ฉันก็ได้มาเสมอ
แต่ผู้หญิงที่รู้สึกอยากได้มากขนาดนี้ มีเธอเพียงคนแรก"
"เธอก็ราวกับเพชรเม็ดใหญ่ที่สวยงามอย่างไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน"
"ดวงตาที่จ้องมองมาราวกับเงาที่น่าสงสัยซึ่งดึงดูดยั่วยวนให้ฉํนเข้าไปหา
ดวงตานั้นราวกับมองมาที่ฉันเพียงคนเดียว"
"กับเธอคนนี้... ถ้าได้เดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกไปพร้อมกันจะน่าสนุกแค่ไหนกันนะ"
"ฉันจะแสดงให้เธอเห็น โลกกว้างใหญ่ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
สถานที่พิเศษที่ไม่เคยมีใครพบเจอ "
"การเดินทางท่องเที่ยว แน่นอนว่าต้องอันตราย แต่ฉันจะปกป้องเธออย่างดีเอง
ราวกับดอกไม้ที่รัก จะไม่ให้ใครมาสัมผัสได้แน่นอน"
"แต่ก็ไม่ได้หมายความจะบังคับให้เธอไปยังสถานที่เธอไม่ต้องการ
ถ้าทำแบบนั้นคงไม่ได้(ใจ)เธอน่ะสิ แบบนั้นมันก็ไม่มีใครหมายอะไร
เพราะสิ่งที่ฉันต้องการขโมย คือหัวใจของเธอ
จน(ทำให้เธอ)รู้สึกว่าผู้ชายคนอื่นไม่มีความหมายอะไร"
"ฉันรักเธอ"
"และจะให้เธอได้มีความสุขแบบที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน
จะให้เธอได้สมหวังในทุกสิ่งตลอดกาล..."
"สิ่งที่(เธอ)ต้องการคืออะไร
ความอ่อนโยนใจดี หรือความรู้สึกราวกับราชินี
ถ้าเธอต้องการ ไม่ว่าสิ่งใดฉันจะให้ทุกอย่าง"
"ตัวเธอที่ยังไม่รู้จักฉันมาก่อน
ตอนแรกอาจจะตกใจกลัว แต่ไม่ต้องกลัวหรอกนะ
ฉันจะให้ความสำคัญกับเธออย่างดีเอง
เหมือนเรากับแก้วที่แตกได้ง่าย
เพราะฉะนั้นเธอไม่ต้องกังวลอะไรหรอกนะ
แค่เข้ามาในอ้อมกอดนี้ก็พอ ไม่ได้ยากอะไรนี่ใช่ไหม
เอาล่ะ ถึงเวลาแล้ว"
"รออยู่นะ... เจ้าหญิง"
"ตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอเธอ ฉันก็รอคอยให้เธอมาอยู่ในมือของฉันคนนี้
จากนั้นก็จับมือเธอให้แน่น ที่เหลือก็แค่กอดเธอให้แน่นภายในอ้อมแขนนี้"
"ยอมแพ้ซะเถอะ ฉันไม่มีวันคลาดสายตาและปล่อยให้เธอหนีไปแน่ๆ"
"ใช่แล้ว... อีกแค่เพียงนิดเดียว"
แต่จากนี้เป็นแทรคร่วมค่ะ
ก่อนเริ่มแทรคโซตะคุงกับโทคิตะก็มาคุยกันนิดหน่อย
โทคิตะกับโซตะก็ยังคงตื่นเต้นอยู่หน่อยๆเหมือนเดิม ทำให้ลืมของนู่นนี่
ทั้งคู่ก็เลยมาให้กำลังใจกันเอง
เอาล่ะ เริ่มแทรกกันเลยดีกว่า..
Track 7
"เอาล่ะ วันนี้ดอกไม้อันไหนดีนะ"
"เอ๋ เสียงอะไรนะ เพราะจัง ใครนะ.. อ๊ะ ตรงนั้นเอง"
เดินออกไปดู
"สวัสดีตอนเย็น"
"สวัสดีตอนเย็น คุณเป็นใครหรอ"
"ผมทำร้านขายดอกไม้ที่เมืองนี้ พอดีได้ยินเสียงเพลงเพราะๆก็เลยเผลอเดินมาดูน่ะ"
"ขอบคุณมาก แต่ก็ยังไม่(เพราะ)มากหรอก"
"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เป็นเพลงที่อ่อนโยนไพเราะมาก
จนทำให้ผมรู้สึกอยากรู้ว่าคนที่เล่นเพลงได้ไพเราะอย่างนี้เป็นใครกันนะ
ผมรู้สึกว่าต้องเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากแน่ๆ"
"ขอบคุณมากสำหรับคำชื่นชม ถ้าเพลงนี้เข้าถึงหัวใจคุณได้ก็คงไม่แย่มากสินะ
ผมเป็นคนที่ท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ เป็นคนที่ทำได้แค่ร้องเพลงอย่างเดียว
ไม่ใช่คนที่ยอดเยี่ยมอะไรอย่างที่คุณคิดหรอก"
"อย่างนั้นหรอ คนที่ทำได้แค่แสดงความรู้สึกของตัวเองผ่านทางดอกไม้แบบผม
เห็นคนที่สามารถพูดได้อย่างงดงามแบบนี้แล้วรู้สึกอิจฉานะ"
"งดงาม?"
"ใช่แล้ว งดงาม... ถ้าผมมีความสามารถพิเศษแบบนั้นล่ะก็
คงไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ และคงจะสามารถบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปได้"
"คุณมีคนสำคัญที่อยากบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปสินะ"
"ใช่ คนที่เปล่งประกายงดงามเหมือนดอกทานตะวัน
แต่ว่าผมไม่สามารถพูดออกไปได้
ทุกๆครั้งก็พูดแต่เรื่องของดอกไม้"
"มีแต่เรื่องที่สวยงามทั้งนั้นไม่ใช่หรอ ยิ่งกว่านั้นไม่ใช่เรื่องว่าจะพูดอย่างไร
แต่เป็นเรื่องการใช้เวลาร่วมกันอย่างไรต่างหากที่สำคัญ"
แม้น้องโซตะจะแย้งแต่โทคิตะก็ยืนยันว่าสิ่งนั้นดีแล้ว
แค่เพียงทำให้เธอมีรอยยิ้มที่มีความสุข
"ฉันคิดว่าคุณก็ทำในสิ่งที่คุณทำได้นั่นล่ะดีแล้ว
บางที นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่มีเพียงคุณเท่านั้นที่ทำได้ก็ได้"
"งั้นหรอ?
ถ้างั้นช่วยบอกหน่อยว่าคุณสามารถร้องเพลงส่งไปถึงจิตใจคนๆนั้นได้อย่างไร"
"เรื่องนั้น ฉันคงตอบไม่ได้
ตัวฉันเองก็ไม่รู้ว่าเพลงของฉันได้อธิบายทุกอย่างได้รึเปล่า"
"ตัวฉันเองก็ไม่รู้ว่า.
คำพูดของฉันทำให้เขาดีใจได้ไหม สามารถส่งไปถึงคนๆนั้นได้จริงรึเปล่าก็ไม่รู้"
โซตะเลยกลับเป็นฝ่ายให้กำลังใจโทคิตะว่าต้องมีพลังส่งถึงได้แน่ๆ
"ถ้าเป็นงั้น ก็คงจะมีความสุขมาก
ถ้าเสียงของฉันส่งไปถึงได้ล่ะก็ ไม่ว่าเมื่อไหร่ฉันก็จะร้องเพลงต่อไปเพื่อเธอคนนั้น"
"คนสำคัญของคุณ?.."
"แต่ว่าสำหรับตัวฉันที่เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วแบบนี้
ไม่สามารถจะอยู่ใกล้กับคนที่รักได้"
"การรักคนๆนึง ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ใกล้กันก็ได้
แค่มีความรู้สึกให้กับคนๆนั้น"
"ก็ว่าไปงั้น แต่ที่จริงนี่เป็นคำพูดของพวกดอกไม้ที่บอกฉันน่ะ"
"ดอกไม้?"
"ใช่ ตอนที่ผมกำลังเศร้าใจ พวกดอกไม้ได้บอกกันผมแบบนี้"
"ผมอยากคุยกับพวกดอกไม้บ้างจัง"
แล้วทั้งคุ่ก็พูดกันอีกนิดก่อนโซตะคุงจะนึกขึ้นได้ว่าเริ่มคุยนานไปแล้ว
"ถ้างั้น ผมไปล่ะ ต้องรีบเตรียมดอกไม้ให้เยอะไว้ ก่อนที่เธอจะมา"
"อ่า นั่นสินะ ขอโทษที่ทำให้เสียเวลา"
"ไม่เลยๆ ผมเป็นฝ่ายเดินเข้ามารบกวนคุณเองต่างหาก"
"ถ้างั้น ถ้าได้เจอกันอีกก็ดีนะ"
"ครับ อ๊ะ จริงสิ นี่.. ถ้าไม่รังเกียจ"
"ครับ?"
"ดอกคอสมอส.. ความหมายของดอกไม้ก็มีมากมาย
แต่ที่ผมชอบมากที่สุดก็...makokoro(คืออะไรหว่า? ไม่รู้อ่ะ)"
"ขอบคุณมาก คอสมอสเป็นดอกไม้ที่ชอบมาก"
"ดีจัง ถ้างั้น แล้วไว้เจอกันอีกสักวัน"
"ครับ จะรอคอยวันที่ได้เจอกันอีก
ดอกคอสมอส.. ความหมายคือ makokoro
ถ้าเธอมาอีกล่ะก็ จะให้ดอกไม้นี่กับเธอ"
ก่อนจะเริ่มเทรกของคู่เซนเซย์กับเรนคุงก็มีแทรกทั้งคู่มาคุยกันก่อน
เรนก็จะบอกว่าเซนเซย์กรุณาอย่ามาทำผิดพลาดนะครับ
เซนเซย์ก็จะแย้งว่า คนอย่างฉันจะทำผิดพลาดได้ยังไง
แล้วก็โต้กลับว่าเรนต่างหากอย่ามาทำอะไรผิดพลาดล่ะ
เรนก็จะบอกว่า เขาจะพยายามไม่ทำผิดพลาด โดยมีการเหน็บว่า
ถ้าเซนเซย์ไม่ทำอะไรผิด เขาก็ไม่ทำหรอก
Track 8
เปิดตอนมาเซนเซย์เดินเข้ามาตามหาเจ้าหญิงในปราสาท
และก็ได้มาเผชิญหน้ากับเจ้าชายเรน!
แกเป็นใคร?
นาย.. ถ้าจำไม่ผิด เป็นเจ้าชายที่เต้นรำกับเจ้าหญิงตอนนั้นนี่
อย่าบอกนะว่านายเองก็ตามเธอมาถึงนี่เหมือนกัน
พูดอะไร.. เธอน่ะคือใคร เจ้าหญิงหรอ?
จุดมุ่งหมายของฉันมีอย่างเดียวคือเจ้าหญิงของปราสาทนี้
ว่าไงนะ!?!!
เอาล่ะ ส่งเธอมาซะ ถ้าไม่ส่งมาล่ะก็จะใช้กำลังชิงมาล่ะนะ
(ฉัน)ไม่มีทางให้ทำแบบนั้นแน่
เสียงดึงดาบ
จะมาขวางฉันคนนี้อย่างนั้นรึ หึ
แต่ไม่อย่างงั้นก็คงเรียกว่ามาขโมยไม่ได้
เสียงดึงดาบ
(ฉัน)ไม่มีทางยกเจ้าหญิงให้คนอย่างนายแน่
จะหยุดให้ดู ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
งั้นก็แสดงให้ดูหน่อยสิ
ได้ตามที่หวัง
แต่ว่านะ ของที่ฉันอยากได้ยังไงก็ต้องได้
ถึงนายจะทำอะไรก็เปล่าประโยชน์
เสียงดาบประมือกัน
เห... ดูเหมือนจะไม่ได้เก่งแต่ปากนะ
ทำให้สนุกได้เหมือนกันนะ
(ฉัน)ไม่ได้จะมาเล่นสนุกกับนาย
เอาล่ะ รีบยอมแพ้และถอยไปซะ
(ฉัน)บอกแล้วว่าไม่มีทางส่งเจ้าหญิงให้นายแน่
ไม่ได้ ฉันจะขอรับเธอไปล่ะนะ
เรื่องแบบนั้น ไม่มีทางปล่อยให้เกิดขึ้นแน่!
อย่างนี้นี่เอง ทำให้คนอย่างนายทำแบบนี้ได้
ยิ่งทำให้สนใจเจ้าหญิงคนนั้นเข้าไปอีกซะแล้วสิ
ว่าแล้วว่าสายตาของฉันดีจริงๆ
แก... ยังไม่เข้าใจอีกหรอ
เธอน่ะ... เป็นคนที่คนอย่างนายไม่สามารถเอื้อมไปสัมผัสได้
เธอเป็นเหมือนดาวบนท้องฟ้า
ยังไม่ได้บอกหรอ ว่าไม่มีสิ่งใดที่ฉันไม่สามารถสัมผัสได้
ถ้าฉันจริงจังแล้วล่ะก็นะ ถ้าเอื้อมไม่ถึงล่ะก็..
ไม่ว่ายังไงก็ต้องคว้ามาให้ได้แค่นั้น
ถ้าคิดว่าจะสามารถคว้าทุกอย่างมาได้ด้วยกำลังแล้วล่ะก็
(นาย)เข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง
แค่เรื่องนั้นน่ะ(ฉัน)รู้อยู่แล้ว
เพราะงั้นฉันถึงไม่ได้คิดจะคว้าดึงเธอเอามาดื้อๆเหมือนกัน
ถ้างั้น..
เพราะงั้นฉันจะให้เธอไม่เห็นสิ่งอื่นใดนอกจากตัวฉัน
ขโมยน่ะ หมายถึงแบบนั้นล่ะ
(ก็คือหมายถึงให้รักเขาจนมองไม่เห็นคนอื่นนั่นล่ะ เหอๆๆ)
ไร้สาระ!
ถ้างั้นก็พาเจ้าหญิงมาที่นี่แล้วถามดูสิ
ว่าเธอจะเลือกใครน่ะ
อย่าเข้าใจอะไรผิด จะเลือกคนอย่างนายน่ะไม่มีทางเป็นไปได้
อย่างงั้นหรอ นายกลัวไม่ใช่หรอ
ถ้าเจ้าหญิงเลือกฉันคนนี้ นายจะทำยังไงดี
พูดเรื่องบ้าๆน่ะจบซะที ถ้าพูดมากกว่านี้ จะไม่ยอมแล้ว
งั้นหรอ ถ้างั้นก็คงถึงเวลาฉันจริงจังแล้วเหมือนกันสินะ
มีเสียงคนอื่นดังขึ้นมา
Otto ดูเหมือนจะเล่นมากไปซะแล้วสิ
เริ่มวุ่นวายขึ้นมาแล้ว
เรนก็เลยว่า คงไม่ใช่เซนเซย์ให้คนอื่นไปเอาตัวเจ้าหญิงหรอกนะ
เซนเซย์ก็เลยปฏิเสธ
ยังไงซะ การจะคว้าเอาอัญมณีล้ำค่ามาน่ะ
มันก็ต้องคว้ามาด้วยตัวเองสิ เรื่องสนุกแบบนี้จะให้คนอื่นทำได้ไง
ยอมแพ้ซะเถอะ (นาย)ทำไม่ได้หรอก
แก.. ก็ช่วยไม่ได้นะ ก็สนุกดี
ตอนนี้จะยอมถอยไปก่อน แต่ว่า คราวหน้าไม่พลาด
เตรียมใจไว้ได้เลย
ถึงจะหนีไปตอนนี้ได้ก็ตาม
เจ้าหญิงน่ะ ฉันจะปกป้องเองอย่างแน่นอน ไม่ปล่อยให้แกแน่
จำไว้เลยว่าคราวหน้าที่เจอกัน จะเป็นครั้งสุดท้ายของแก
น่าเสียดาย แต่นั่นไม่ใช่เนื้อเรื่องที่ควรจะจำ
jaa อ๊ะ ใช่ๆ ฝากทักทายเจ้าหญิงด้วย
บอกว่าอีกไม่นานจะไปรับน่ะนะ
จะให้บอกอีกกี่ครั้ง
(ฉัน)ไม่มีทางยอมให้แกแตะต้องเจ้าหญิงคนสำคัญของฉันแน่
เอาเหอะ แล้วจะรอการประมือครั้งหน้านะ
เจ้าหญิง.. ฉันจะปกป้องเธอเอง ถึงแม้ต้องแลกด้วยชีวิตนี้
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เธอต้องการหรือไม่
สำหรับฉันแล้ว ถ้าแค่เพื่อเธอล่ะก็
ฉันจะคอยส่งเสริมเธอด้วยดวงวิญญาณดวงนี้อย่างแน่นอน
จบแทรกด้วยหนุ่มๆทุกคนมาคุยกัน
ต่างกล่าวขอบคุณกันและกัน(ตามมารยาท)
และดูเหมือนคนดูก็จะดีใจด้วยเช่นกัน
มีการพูดถึงเรากันว่าเราเนี่ยตั้งใจทำงานจนล้มลงเลย ดีที่เรนคุงมาดูแลทัน
เรนก็แอบจิกๆกัดๆเรื่องน้ำหนักเล็กน้อย ส่วนน้องโซตะที่รักก็บอกว่า
น่าเสียดายที่เขาไม่ได้อยู่แถวนั้นไม่งั้นจะคอยรับเราไว้ซะหน่อย
เซนเซย์เลยแอบจิกว่า จะล้มไปด้วยกันซะล่ะไม่ว่า(เพราะน้องโซตะตัวเล็ก)
โซตะก็แย้งทันทีไม่เป็นแบบนั้นหรอก
เสร็จแล้วเซนเซย์ก็มาวิจารณ์ว่าโซตะเนี่ยไม่เหมาะกับคนขายดอกไม้เลย
โซตะก็บอกว่างั้นหรอ แต่ความรู้สึกที่ต้องการทำเพื่อเรานี่เหมาะกับเขาเลย
แล้วเรนก็พูดขึ้นว่า จะว่าไปเจ้าตำนานนั่นมันอะไรกัน
เซนเซย์เลยแอบจิกว่า มีเรื่องที่เรนก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ
เรนเลยตอกกลับประมาณว่าเพราะมันเป็นเรื่องไร้สาระ
แล้วโซตะก็เล่าให้ฟัง ประมาณว่าผู้ชายก่อนจะเอาดอกไม้ไปให้ผู้หญิง
บังเอิญว่าตกน้ำตายซะก่อน (มั๊ง) เป็นตำนานของเยอรมันน่ะ
เซนเซย์มีการจิกว่า เขาฟังเสียงดอกไม้ไม่ได้
ทำเอาโซตะบ่นว่าจะไม่เป็นผู้ชายที่ไม่มีความฝันแบบเซนเซย์แน่ๆ
เรนก็พูดถึงคาแรกเตอร์เซนเซย์ว่า
จะให้คิดยังไงกับเซนเซย์ที่ดูเหมาะกับโจรสลัดขนาดนั้นดี
เซนเซย์มีดีใจว่าดูเหมาะขนาดนั้นเลยสินะ แล้วก็บอกว่าสร้างหมวกเองเลย
เซนเซย์กับโซตะก็มีแอบบ่นว่าบทมันยาว
แต่เรนกับโทคิตะไม่ได้รู้สึกลำบากกับการจำบทเลย
เรนถึงกับบอกว่าแค่บทแค่นั้นไม่ได้เสียเวลาอะไรเลย
ทำเอาเซนเซย์จิกว่า สมกับเรนจังนะ แต่บทแบบนั้นก็จำได้ง่ายๆเลยหรอ
ว่าแล้วทั้งสามคนก็แอบแซวเรนด้วยคำพูดที่แต่ละคนชอบกันใหญ่
(ตรงนี้ พอฟังเสียงอิชิดะซังในบทโทคิตะที่ทำเสียงแบบเรนแล้วรู้สึกว่า
เสียงโคดจะเท่ห์เลย นึกว่าเรนจริงๆซะอีก ชอบเสียงแบบนี้ของอิชิดะซังอ่ะ)
เรนเลยบอกว่า พอกันได้แล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้ว จะขอกลับล่ะนะ
ว่าแล้วพูดกันถึงบทที่พวกทาคาชิซังและคนอื่นๆต้องแสดงกันว่าจะเป็นไงน้า
ก็ต้องติดตามกันในแผ่น second stage ล่ะนะ
ซึ่งเราไม่มี เพราะงั้นคงมารีวิวไม่ได้ค่ะ T^T ใครมี รบกวนขอบริจาคหน่อยค่าาา ><
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น