วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Orange Honey - Shinya

ทีนี้มาต่อกันที่ ชินยะคุง จาก orange honey ^^
ถ้าให้เดา เราว่าชินยะน่าจะเป็นพระเอกของเกมส์นี้นะ แต่ก็ไม่ได้แน่ใจ100%
 

หมายเหตุ... อย่างเคยนะคะ เราไม่เก่งภาษาญี่ปุ่นเพราะงั้นอาจจะแปลผิดก็ขออภัยล่วงหน้า 
แล้วก็... ชินยะคุงเป็นคนแรกที่เราจีบ เนื้อหาก็เลยลืมไปเยอะ 
บางทีอาจจะผิดพลาดหรือขาดไรไปบ้างก็โทษทีน้า~ ^^ 
แล้วตอนเล่าอาจจะพูดบรรยายเกินเลยเนื้อหาจริงไปบ้างก็อย่าใส่ใจนะ ฮะๆ



ฉากเริ่มต้นจากในห้องชมรมศิลปะที่เราเพิ่งจะลาออกจากชมรมไป เราก็จะเก็บของและออกจากห้องมาเพื่อจะไปประชุมงานกรรมการนักเรียน(มั๊ง) ก่อนหน้านั้นก็จะเจอรุ่นน้องในชมรมที่มาถามเหตุผลว่าทำไมเราถึงลาออก ถ้าเราตอบไปตามที่คิดรุ่นน้องก็จะวิ่งจากไปแล้วเราจะเข้าไปในห้องเรียนเจอเค ตะคุง แต่ถ้าเราอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบอะไรดี รุ่นพี่ฮิโรโตะก็จะเข้ามาช่วยเราโดยบอกว่ามีคนเรียกหารุ่นน้องคนนั้นให้รีบ ไปหา
 
จากนั้นเราก็จะเข้าไปประชุม และที่นั่น เราก็จะได้เจอกับชินยะคุง~
ชินยะคุงก็จะเปิดการประชุม(เขาเป็นประธานนี่นะ) แล้วก็จะถามว่ามีใครคัดค้านอะไรไหม ก็จะเสียงค้านขึ้น เขาจะถามถึงเหตุผลที่ทำไมชมรมศิลปะถึงได้เงินค่าชมรมมากกว่าชมรมอื่น เราก็จะแปลกใจและเปิดกระดาษดู ก็จะเห็นว่าจริงๆด้วย แล้วพ่อหนุ่มที่พูดค้านขึ้นก็จะพูดถึงเราประมาณว่าเป็นเพราะเราเคยอยู่ชมรม ศิลปะสินะ เมื่อโดนว่าไปอย่างนั้น ใครบ้างจะไม่โมโห ด้วยความเดือดจัด แม้จะเป็นนางเอกก็ไม่ยอมใครง่ายๆหรอกนะ เราก็ตั้งท่าจะลุกขึ้นโต้เถียงแต่แล้วก็ถูกฉุดไว้ด้วยมือหนาของชายหนุ่ม เราก็สะดุ้งน้อยๆพร้อมกับได้ยินเสียงทุ้มต่ำกระซิบที่ข้างหูให้เราใจเย็น เดี๋ยวเขาจัดการให้เอง(มั๊ง? จำไม่ได้อ่ะ ฮะๆๆ) จากนั้นชินยะคุงก็จะพูดอธิบายเหตุผลว่า เพราะชมรมศิลปะชนะการประกวดเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ถึงได้รับเงินชมรมมากกว่าคนอื่น ขณะที่พูดอยู่นั้น มือของเขาก็ยังคงกุมมือเราไว้แน่นอยู่ใต้โต๊ะให้เรารู้สึกอบอุ่นและวางใจ
 
"ไม่มีคำคัดค้านอะไรอีกแล้วสินะ" พระเอกของเราเอ่ยขึ้นก่อนจะปิดประชุมครั้งนี้ลง
 
แล้วคืนนั้นเราก็จะได้รับเมลล์ฉบับแรกจากชินยะคุงมานอนกอด รูปเท่ห์มากกก~~ หุๆๆๆ (อ้อ ก่อนนั้นให้ตอบว่ายังไงก็ไม่ให้รูปเซย์จิดูก่อนนะ ไม่งั้นเราจะได้เมลล์จากเซย์จิมาแทน เหอๆๆๆ)
 
วันต่อมา เป็นวันที่มีงานดอกไม้ไฟ...
โปรดระวัง!! วันนี้เราต้องทำใจแข็งเอาไว้ เจอหนุ่มคนไหนต้องรีบปฏิเสธอย่าไปคุยด้วย ไม่งั้น เราจะได้นัดกับหนุ่มคนนั้นแทนชินยะคุง เพราะตอนเราเล่นแอบเผลอใจอ่อนจนต้องโหลดใหม่ ก็มีหนุ่มๆมาล่อลวงเราตั้งสองคน(อากิระกับเคตะ)ก่อนจะได้ไปเจอชินยะง่า~ พอเขาชวนมาก็ปฏิเสธไม่ลง แถมพอปฏิเสธไปก็ทำหน้าเศร้าซะ... T^T
เราจะคุยกับอากิระคุงและนึกได้ว่ามีงานก็เลยขอตัว แต่ขณะกำลังจะไปก็เจอเคตะคุงเข้ามาในห้องพร้อมกับสาวอีกหนึ่งคนซึ่งก็คือผู้ จัดการชมรมฟุตบอลของเคตะนั่นเอง(นักกีฬากับผู้จัดการมักจะเป็นของคู่กัน เหอๆๆ) ผู้หญิงคนนั้นจะชวนเคตะไปดูดอกไม้ไฟด้วยกัน(มั๊ง) แต่เคตะก็จะปฏิเสธไป เธอก็เลยออกจากห้องไป แต่ก่อนจะออก ก็ยังไม่วายหันมาเขม่นเราก่อนหนึ่งshot พอเธอออกไปเราก็จะออกจากห้องตามไปโดยไม่ได้คุยกับเคตะ...
หลังจากเราหลุดจากการล่อลวงของหนุ่มๆมาได้แล้ว(?) เราก็เดินไปที่ห้องของชินยะคุง(เพราะเรื่องงาน) แล้วเราก็สะดุ้งหยุดอยู่หน้าห้องเมื่อได้ยินเสียงคนพูดกัน(เป็นนางเอกต้อง แอบฟังคนอื่นพูดก่อนโผล่หน้าไปสินะ ^^" ) เสียงนั้นก็คือสาวคนที่เพิ่งโดนเคตะปฏิเสธมานั่นเอง!!! เนื่องจากเธอเรียนอยู่ห้องเดียวกับชินยะคุง... หลังจากโดนหนุ่มที่ชอบปฏิเสธมาอย่างไร้เยื่อใย พอมาเจอชินยะคุงในห้องก็เลยรีบนินทาเราทันที (แล้วทำไมต้องนินทาเรากับชินยะคุงด้วยฟร้า~ อย่างกับรู้ว่าเรากำลังจีบชินยะอยู่งั้นล่ะ!!) ก็จะนินทาเรื่องเรากับเคตะ หลังจากพูดๆๆจนสาแก่ใจแล้ว ก็เลยถามความเห็นชินยะคุงว่าคิดยังไง ขณะที่เรากำลังใจตุ้มๆต่อมๆว่าชินยะจะตอบว่ายังไงน้า เราก็ต้องอึ้งไป เมื่อคำตอบที่ได้ยินกลับกลายเป็นว่า... ไม่รู้สิ เพราะตัวเขาไม่ได้รู้จักเราดี(ไม่ได้สนิทกับเรามากอะไรแบบนั้น) เมื่อพวกเขาคุยกันจบแล้ว เราก็กะจะเข้าไปในห้อง แต่ก็ก้าวเท้าไม่ออกขยับตัวไม่ได้เพราะยังอึ้งกับคำตอบของชินยะคุงอยู่ ตอนนั้นเองชินยะคุงก็ออกมาเห็นเราเข้าพอดี ก็เลยชวนเราเข้าไปในห้องเรียน แล้วเขาก็ถามว่าเราได้ยินที่พูดเมื่อกี๊เหรอ เราก็ตอบอื้ม เขาก็บอกว่าเขาโกหกน่ะ เราก็ เอ๋? ชินยะก็เลยอธิบายว่า ที่เขาพูดไปเมื่อกี๊(ว่าไม่รู้จักเราดี)เขาโกหกน่ะ แล้วเขาก็ถามว่าแล้ว... เรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นพูดเมื่อกี๊จริงรึเปล่า? เราก็บอกว่าไม่จริง!! ผู้หญิงคนนั้นน่ะโกหก!! ชินยะคุงก็เลยยิ้มแล้วบอกว่า เขาก็เหมือนกัน เมื่อกี๊ที่เขาก็พูดโกหกไปน่ะ จากนั้นเขาก็ถามว่าเราจะไปดูดอกไม้ไฟกับใครรึเปล่า ถ้าไม่.. เขาจะชวนไปดูด้วยกันได้ไหม? เราก็ตอบรับว่า ไปสิ (แน่นอนอยู่แล้ว!!!) แล้วพอเลิกงานกรรมการนักเรียน เราก็จะออกไปดูกับชินยะคุง ทั้งๆที่ตั้งใจจะไปดูกันสองคน (>0<) แต่พอไปที่สนามเพื่อจะดูดอกไม้ไฟก็เจอกับทุกคน (อากิระคุงจะพูดประมาณว่า เหมือนที่เคตะบอกเลย ว่าเราต้องมาดูแน่) แล้วเราก็เลยได้ดูกับทุกคนแทน ^^'
 
ในวันปิดภาคฤดูร้อน เราก็ยังคงต้องมาโรงเรียนเพื่อมานั่งทำงานกรรมการนักเรียนกับชินยะคุง(อย่าง เต็มใจเลยค่า~~ ^//^ ได้เจอชินยะคุง ถึงต้องทำงานก็ยอม หุๆๆ) หลังจากทำงานเสร็จ ก็ออกมาหน้าโรงเรียนพร้อมกัน เราก็จะรู้สึกถึงแดดที่แรงจัดจ้าน และรู้สึกคล้ายจะเป็นลม(ไม่ใช่หรอก เราพูดเว่อร์ไปงั้นล่ะ อย่าใส่ใจ เหอๆๆ) ชินยะเห็นก็เลยถามว่า "เราแพ้แดด แพ้ฤดูร้อนหรอ?" เมื่อโดนถามอย่างนี้ก็เลยตอบไปว่า "ชั้นชอบฤดูร้อนที่สุดเลยล่ะ" (แหลเข้าไว้ ไม่งั้นจีบไม่ติดน่ะเออ~) ชินยะก็เลยเอาบัตรสวนสนุกมาให้ แล้วก็ถามเราว่ารู้จักที่นี่มั๊ย เราก็บอกว่ารู้จัก และคิดในใจว่าเพิ่งได้ยินจากทางทีวีมา(ห้ามตกข่าวไม่งั้นจีบหนุ่มไม่ติดค่ะ ฮะๆๆ) แล้วชินยะคุงก็จะบอกว่าได้มาจากพ่อ เพราะพ่อเป็นสส.(ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงอ่ะ) เราก็เลยบอกว่าดีใจจังเลย(คำขอบคุณ มันดูเป็นทางการเกินไปสำหรับสาวน้อยอย่างเรา...เหรอ?) แล้วก็เลยชวนชินยะคุงว่าไปด้วยกันสิ เพราะมีบัตรสองใบ (<-- อ่ะฮ่า หลักแหลมไม่เลวนี่นา ถือโอกาสเป็นฝ่ายชวนเดทโดยไม่น่าเกลียดซะด้วย) ชินยะคุงก็จะแอบตกใจนิดนึง (คงจะแอบนึกในใจว่าไม่นึกว่าเธอจะกล้าแบบนี้ ฮะๆๆ) ก่อนจะตอบตกลง แล้วก็นัดเจอกัน
 
เมื่อถึงวันเดท เราก็จะได้เห็นชินยะคุงในชุดไปรเวท ดูเท่ห์มากมาย จนเราแอบชมในใจ..
เมื่อไปถึงสวนสนุก เราก็จะเห็น.. อะไรสักอย่างที่เราไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรอ่ะ ฮะๆๆ พูดไม่ถูก เอาเป็นว่าเราเห็นเจ้าสิ่งนั้นแล้วก็บอกว่าน่ารักจังเลยเหมือนโมซาร์ทเลย เมื่อได้ยินคำว่า 'โมซาร์ท' ซึ่งเป็นชื่อของกระต่ายของเซย์จิคุงปุ๊บ ชินยะคุงก็อึ้งและทำหน้าซีเรียสขึ้นมาทันที แล้วก็ถามเหตุผลที่เรารู้จักมันด้วย เราก็เลยบอกว่าเพราะเซย์จิพามาที่โรงเรียน(จะได้เห็นตอนจีบเซย์จิคุง) จากนั้นชินยะก็ทำหน้าเครียดตลอดวันเลย (ดันงี่เง่าพูดเรื่องของหนุ่มอื่นตอนกำลังเดทเองนี่นา~ แต่สุดท้าย เพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องที่พูด ทำให้เราได้รู้เรื่องของชินยะคุงเพิ่มขึ้นล่ะ หุๆๆ) แล้วตอนเย็นหลังหลังจากไปกินข้าวกันแล้ว ชินยะคุงก็จะเล่าเรื่องของพวกเขาสองพี่น้องให้ฟัง... เนื่องจากพ่อของพวกเขาเป็นสส.ทำให้ลูกสส.อย่างพวกเขาโดนจับตามองตั้งแต่เด็ก ตัวชินยะเองน่ะไม่เท่าไหร่หรอก เขาไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรมากกับการถูกจับตามองแบบนี้ และชินยะคุงเองก็วางตัวได้ถูกอยู่แล้วแต่เซย์จินั้นต่างออกไป ทำให้เซย์จิถูกจับแยกไปอยู่กับปู่(มั๊ง) พวกเขาสองคนก็เลยถูกแยกจากกันตั้งแต่เด็ก ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็เลยไม่สนิทกันเหมือนพี่น้องคนอื่นทั่วๆไป
 
หลังจากเล่าจบ พวกเราก็จะไปนั่งชิงช้าสวรรค์กัน (มาเดทที่สวนสนุก จะไม่ขึ้นชิงช้าสวรรค์ได้ยังไง!!) ขณะที่นั่งบนชิงช้าสวรรค์ ชินยะคุงก็จะถามเราว่ามีความฝันอะไร เราก็จะตอบๆไป ถ้าจำไม่ผิดก็เกี่ยวกับเรื่องวาดรูปนี่แหล่ะ แล้วเราก็จะถามถึงความฝันของชินยะคุงบ้าง เขาก็จะบอกว่าเขาไม่มีหรอกเพราะงั้นเขาจะคอยเป็นกำลังใจให้เราทำความฝันให้ เป็นจริงให้ได้ แต่สุดท้ายก่อนจะลงเขาก็บอกว่าเขามีความฝันแล้ว แต่ก็ไม่บอกเราว่าคืออะไร... ซึ่งจริงๆแล้วมันก็คือ การได้อยู่กับเราตลอดนั่นเอง
 
เปิดเรียนใหม่ นัตจังก็จะมาแซวเราเรื่องที่ไปเดทกับชินยะคุง พออากิระได้ยินอย่างนั้นก็ทำหน้าเศร้า(ทำหน้าเศร้าแบบนี้อีกแล้ววว >//< ไม่อยากเห็นอากิระคุงทำหน้าแบบนี้เลยย) แล้วเคตะก็เข้ามาพอดี ก็พูดๆกันนิดหน่อย เรื่องพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันทัศนศึกษาของโรงเรียน...
 
พอเราออกจากห้องมาก็จะเจอเซย์จิคุง เขาก็จะถามว่าเราจะไปทัศนศึกษาหรอ อย่าไปเลยนะ ไปแล้วก็ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน ขณะที่คุยๆอยู่ก็มีเสียงชินยะทักขึ้นมา เซย์จิก็สะดุ้งเล็กๆว่านั่นพี่นี่นา แล้วก็รีบฉุดเราวิ่งหนีพี่?) และเข้าไปในห้องเรียนนึง คุณพี่ก็จะตามมาเคาะประตูอย่างแรงและบอกว่า "เซย์จิ อยู่ในนั้นใช่มั๊ย เปิดเดี๋ยวนี้นะ!!" เราก็จะไปเปิดแต่ก็ถูกเซย์จิห้าม บอกว่าอย่าเปิดนะ! แค่นิดเดียว แค่แป๊บเดียว... เขาอยากจะคุยกับเราแค่สองคนหน่อย แต่สุดท้ายชินยะก็เข้ามาในห้องได้(ยังไง? พังประตูหรอ??? ไม่รู้สิ จำไม่ได้ เหอๆๆ) แล้วเซย์จิก็จะทำหน้างอนๆบอกว่า พี่ขี้โกง เมื่อวันก่อนก็ไปเดทกับเราแค่สองคนทั้งวันแล้วนี่นา ก่อนจะสะบัดก้น(?)เดินจากไป ชินยะคุงก็จะแอบทำหน้าอึ้งๆนิดๆ ก่อนจะหันมาขอโทษเราแทนน้องชาย (อยากจะบอกว่าเหตุการณ์นี้ทำให้เรากรี๊ดเซย์จิ >//< ทั้งที่ก่อนหน้าเฉยๆ แล้วก็เลยตั้งเป้าว่าจีบคนต่อไปจะเป็นเซย์จิคุงเลยล่ะ ฮะๆๆ)
วันต่อมา... วันทัศนศึกษา... หลังจากที่มาถึงโรงแรมแล้ว อาจารย์ก็จะพูดๆอธิบาย เคตะก็จะแอบเข้ามากระซิบกับเราแซวอาจารย์และบ่นๆนิดๆ ซึ่งเป็นความซวยของพ่อหนุ่มนักกีฬาคนนี้ที่อาจารย์ดันได้ยิน ก็เลยบอกว่า "ห้องนอนของครูว่างอยู่ จะมานอนไหม ครูไม่ว่าอะไรหรอกนะ" เคตะก็สะดุ้งและรีบปฏิเสธไป...
ก่อนจะแยกย้ายกันไป นัตจังก็จะมาหาเราถามเรื่องห้อง แต่ปรากฏว่าได้อยู่คนละห้องกัน แล้วนัตจังก็จะนัดเราว่า พรุ่งนี้เป็นวันที่โรงเรียนปล่อยว่างให้นักเรียน เพราะงั้นไปเที่ยวด้วยกันนะ
 
คืนนั้น... เรายังรู้สึกไม่ง่วงก็เลยลงไปเดินเล่นที่ล็อบบี้ แล้วตอนนั้นเอง ก็มีเมลล์ส่งมาหาเรา พอเปิดดูก็พบว่าเป็นเมลล์จากชินยะคุง(สุดเลิฟ) เมลล์มาชวนเราไปเที่ยวด้วยกันพรุ่งนี้ เราก็ตอบรับไปอย่างยินดี+ดีใจ(โดยลืมเรื่องนัตจังไปเลย ว่านัดเขาไปก่อนแล้วนี่นา)ว่า "ไปสิ น่าสนุกเนอะ"พอกดส่งไปปุ๊บ ก็มีเสียงคนทักเราขึ้นมาปั๊บ และปรากฏว่าคนๆนั้นก็คือ ชินยะคุงนั่นเอง!!!
 
"ทำอะไรอยู่หรอ" พระเอกของเราเอ่ยถามขึ้น แต่เรายังไม่ทันได้ตอบ เขาก็ได้รู้คำตอบเมื่อเสียงเมลล์จากโทรศัพท์ของชินยะดังขึ้น พอชินยะเปิดดูและเห็นข้อความข้างในก็ยิ้ม และหันมาบอกเราว่า อื้ม น่าสนุกนะ ^^ แล้วก็เดินจากไป (กรี๊ดดดด~~~~ เหตุการณ์นี้ทำเอาเราใจตุ้มๆต่อมๆอย่างแรง >//< ชินยะคุงอย่าอยู่ๆโผล่มาแบบนี้สิ เขินนะเนี่ย!!)
 
(มาEditลืมจุดสำคัญไปเลย เหอๆ)
หลังจากกลับมาที่ห้องแล้ว จะมีคนมาเคาะประตูซึ่งก็คือนัตจังนั่นเอง เขาจะมาขอโทษบอกว่าลืมไปว่านัดที่ห้องไว้ก่อนแล้วว่าจะไปด้วยกันพรุ่ง นี้(เพราะงั้นไม่ต้องห่วงเรื่องนัตจังนะ ให้ตอบรับคำชวนได้ตามสบาย ^^ คือแบบตอนเราเล่นแอบห่วงเลยลองตอบปฏิเสธไปน่ะ เหอๆ) แล้วก็จะชวนเราไปที่ห้องนัตจังกัน (เล่นปาหมอนมั๊ง ฮะๆ)
 
 
วันต่อมา เราก็ไปเดินเล่นกับชินยะคุง ก็มีโทรศัพท์มา แต่เราก็ไม่รับเพราะกำลังเดินเล่นกับชินยะคุงอยู่นี่นา(ถ้ารับ ก็จะเป็นของเซย์จิโทรมานะ) ก่อนจะกลับ ก็จะไปเจอกลุ่มเด็กๆ เราก็เข้าไปสอนเขาเรื่องการวาดรูป ชินยะคุงก็ยืนดูอยู่ห่างๆ แต่เมื่อเห็นว่าเราเริ่มรับมือเด็กๆไม่ไหว เขาก็เลยเข้ามาช่วยด้วยอีกคน ทำให้เราแปลกใจว่า เอ๊ะ ทำไมชินยะคุงรู้เรื่องการวาดรูปดีจังเลย?
 
เดือนถัดมา ขณะเรากำลังทำงานอยู่ ก็รู้สึกงงกับงานที่ได้ แต่ก็ยังดึงดันพยายามต่อไปโดยไม่ถามชินยะคุง ส่วนพ่อพระเอกของเราก็สังเกตเห็นก็เลยเข้ามาดู และบอกว่าพักสักหน่อยเถอะ แล้วเขาก็จะจับเรามานั่งตักเขาให้เราผ่อนคลาย (เหตุการณ์นี้กำลังอึ้ง+งง ไม่แน่ใจอย่างแรงว่าแปลถูกรึเปล่าโปรดอย่าเพิ่งเชื่อเราจนกว่าจะได้เล่นเอง เพราะนอกจากจะแปลไม่ค่อยออกแล้วยังไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างชินยะจะทำแบบนี้ แต่ถ้าทำจริงๆล่ะก็... กรี๊ดสุดๆ >//<)
 
คืนนั้น ชินยะจะโทรมาถามเราว่าเห็นเซย์จิรึเปล่า ได้ข่าวคราวเซย์จิรึเปล่า เราก็ปฏิเสธไป เขาก็เลยบอกงั้นไม่เป็นไร ไม่มีอะไร จากนั้นก็วางหูไป ปล่อยให้เรางงๆ
 
วันต่อมา เราก็จะสังเกตเห็นชินยะคุงเหม่อๆ ทำงานพลาดๆ เราก็มองด้วยความเป็นห่วงและสงสัย แล้วก็ช่วยๆงานชินยะคุงแทน สุดท้าย เราก็ได้รู้ว่าเซย์จิคุงหายตัวไปจากบ้าน เราก็เลยโทรไปหาเซย์จิ แต่ก็โทรไม่ติด(หรือไม่มีคนรับเนี่ยล่ะ)
 
หมายเหตุ.... ขอแทรกด้วยเว้นท์รูปของชินยะคุงรูปนึงที่จะเก็บได้ต่อเมื่อเราเล่นไปทางมาซา โตะซัง ดังนั้นถ้าเล่นชินยะคุงแล้วไม่เจอรูปนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจ แต่จงไปเล่นมาซาโตะซังเพื่อตามหารูปนี้ซะ!!!!

เป็นรูปเราปลอบชินยะคุงที่กำลังเป็นห่วงเซย์จิเอามากๆ ชอบรูปนี้จริงๆเลย >//<
 
คืนนั้น... ขณะกลับบ้าน เราก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นบางสิ่งที่หน้าบ้านเรา.. เพราะมันคือ... เซย์จิคุงนั่นเอง!!! เราก็รีบพาคุณน้องเข้าบ้านและดูแลเขา เพราะเขาเป็นไข้ เซย์จิจะบอกเราว่าไม่ให้บอกใครโดยเฉพาะพี่ชาย ว่าเขาอยู่ที่นี่
 
เช้าวันต่อมาเราก็ไปโรงเรียน แต่ด้วยความเป็นห่วงคุณน้อง เราก็เลยโทรไปหาชินยะคุง แล้วบอกเรื่องเซย์จิ คุณพี่ก็เลยตามเรามาที่บ้านและมารับคุณน้องกลับ เซย์จิก็ยังคงแอบดื้อแพ่ง แต่เราก็บอกว่าชินยะคุงเขาเป็นห่วงมากเลยนะ กลับไปคุยกันเถอะ เซย์จิก็แอบอึ้งนิดๆประมาณว่าพี่เป็นห่วงมากเลยหรอ ก็เลยยอมกลับไป
 
ในวันคริสมาสต์(หรือคริสมาสต์อีฟ???) ชินยะคุงก็จะชวนเราเดท อิอิ แล้วเขาก็จะซื้อของให้เรา คิดว่าเป็นกิ๊ป เราพี่แกจะติดกิ๊ปให้เราเลย เราก็จะบอกว่าชอบ เขาก็ดีใจ
 
หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่เนื้อเรื่องเครียด ขอเล่าคร่าวๆ เพราะช่วงนี้เราเริ่มเล่นแบบไม่ได้เปิดดิกเพราะกำลังลุ้นกับเนื้อเรื่อง เลยฟังคร่าวๆ แถมตอนเล่นนั่นกะจะให้จบในวันนั้น(หลังจากเล่นมา2-3วันแล้ว) ก็เลยตะลุยให้จบ ^^"
 
หลังจากที่เราเริ่มชอบชินยะคุงอย่างจริงๆจังๆ แต่กลับกลายเป็นว่าชินยะคุงกลับเริ่มตีตัวออกห่างจากเรา ทำไมกัน? เหตุผลก็คือ ชินยะคุงบอกว่าถ้าเรารู้จักเขา รู้เรื่องอดีตของเขาจริงๆแล้วเราจะผิดหวังในตัวเขา เราจะรู้สึกว่าเขาเป็นคนแย่(เราจำไม่ได้ว่าชินยะใช้คำว่าอะไรอ่ะ) ทำให้เราเครียดๆ ตอนนั้นเราก็จะเริ่มรู้แล้วว่าเราเรียนโรงเรียนเดียวกับชินยะคุงตอนเด็กๆ แล้วตอนนั้นเซย์จิก็โทรมาหาเราพอดี เราก็เลยถามเซย์จิเรื่องชินยะคุง เซย์จิก็ไม่ได้บอกอะไรเรามาก บอกแค่ว่าชินยะคุงเคยอยู่ชมรมศิลปะ แต่อยู่ๆก็เลิกไป

ชินยะคุงตอนเด็กๆ น่ารักมากมายอ่า~~~ >//<
อันนี้เป็นช่วงที่เรานึกออกว่าตอนเด็กๆเราเคยคุยเคยเล่นกับชินยะคุงในชมรมศิลปะ
 
ช่วงนั้นเราก็จะกลับมาวาดรูปอีกครั้ง เช่นเดียวกับชินยะคุงที่เริ่มกลับมาวาดรูปเช่นกัน แต่แล้วอยู่ๆชินยะคุงก็ไม่มาโรงเรียน แล้วเราก็ได้รู้เรื่องจากเซย์จิในที่สุดว่าอดีตเกี่ยวกับชินยะคุงมันคือ เรื่องอะไร...
 
เรื่องมีอยู่ว่า เนื่องจากชินยะเป็นลูกชายคนโตของสส. พ่อเขาก็เลยตั้งเป้าจะให้ชินยะสืบทอดตำแหน่งต่อจากเขา ประมาณว่าอยากให้ชินยะเป็นสส.เหมือนกันนั่นแหล่ะ แต่ชินยะดันไปสนใจการวาดรูป พ่อเขาก็เลยทำเรื่องร้ายแรง ที่ถ้าเราแปลไม่ผิดก็คือการใช้อำนาจยุบชมรมศิลปะ สุดท้ายชินยะคุงเลยเลิกวาดศิลปะและทำตามที่พ่อต้องการ
 
หลังจากรู้เรื่องนี้แล้ว... วันนั้น... วันที่ชินยะคุงไม่มา อยู่ๆก็มีชายแปลกหน้าบุกเข้ามาในห้องที่เรากำลังวาดรูปอยู่ เนื่องจากเซย์จิก็อยู่ด้วย ทำให้เราได้รู้ว่าชายคนนี้คือบอดี้การ์ดของที่บ้าน ผู้ชายคนนั้นจะเข้ามาเอารูปชินยะคุงไปทำลายทิ้ง(มั๊ง) เราก็เลยรีบกอดรูปชินยะไว้ แต่ก็ถูกเจ้าบอดี้การ์ดคนนั้นซัดไปกองกับพื้น(เอ่อ... ก็คงไม่แรงขนาดนั้นหรอกมั๊ง อย่างน้อยก็เป็นผู้ชาย คงจะไม่ทำรุนแรงกับผู้หญิงนักมั๊ง แต่ก็ทำเอาจอยสั่นอ่ะนะ เหอๆๆ) แล้วตอนนั้นเอง พ่อพระเอกของเราก็เข้ามาช่วยทัน(รึว่าไม่? ก็โดนซัดไปแล้วอ่ะ) และเข้าไปคุยกับบอดี้การ์ดซะเรียบร้อยว่าตนเองพูดกับพ่อแล้ว จนในที่สุดบอดี้การ์ดคนนั้นก็จากไป
 
วันต่อมา ชินยะคุงก็ไม่มาอีกแล้ว เราก็เศร้าๆ เซย์จิก็มาบอกเราเรื่องชินยะ(มั๊ง) จำไม่ค่อยได้ว่ายังไง แต่สุดท้าย เราก็พูดออกมาว่า เราชอบชินยะคุง ทำเอาเซย์จิทำหน้าอึ้งๆ+เขินแทนเรา(มั๊ง) และบอกว่าเรื่องนั้นน่ะ รู้อยู่แล้ว จากนั้นเราก็วิ่งออกไป... ทำอะไรหว่า จำไม่ได้อีกแล้ว ^^" ... เอาเป็นว่าตอนนั้นเรากำลังกังวลว่าชินยะจะไปต่างประเทศ(มั๊ง)พร้อมกับพ่อรึ เปล่าเนื่องจากมีข่าวออกมาเรื่องพ่อชินยะจะไปต่างประเทศน่ะ
 
วันต่อมา.. ขณะเรากำลังอยู่ในบ้าน ก็มีคนกดกริ่ง พอไปดูก็พบว่าเป็นเจ้าบอดี้การ์ดคนเดิม เขามารับเรา เจ้าบอดี้การ์ดคนนั้นอ้างอะไรสักอย่าง(ที่ไม่เป็นความจริง) ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะบอกว่าจะพาไปหาชินยะ เราก็เลยตามไป แต่แทนที่จะพาไปพบชินยะดันพาไปเจอพ่อชินยะแทน(รู้สึกบอดี้การ์ดคนนี้จะทำไป เองโดยพ่อชินยะไม่ได้สั่งมั๊ง ถ้าแปลไม่ผิดนะ)เราก็คุยๆกับพ่อชินยะคุง และได้รู้ว่าจริงๆพ่อชินยะไม่ได้ร้ายอย่างที่คิดนี่นา แถมยังอนุญาตให้ชินยะวาดรูปได้ด้วย หลังจากนั้นเราก็ออกจากที่นั่นพร้อมกับพ่อชินยะ (ตอนแรกเขาจะให้เราแยกไปอีกทาง แต่ไม่รู้ทำไมเราดันวิ่งไปหาพ่อชินยะ เขาก็เลยบอกให้บอดี้การ์ดคอยคุ้มครองเราให้ด้วย) ตอนนั้นเองเราก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างกำลังจะหล่นใส่พ่อของชินยะ(ถ้าเดา ไม่ผิดน่าจะเป็นขากล้อง) เราก็เลยเข้าไปช่วยพ่อชินยะ เอาตัวไปรับแทน.. แต่ทันใดนั้น... ก็มีชายหนุ่มวิ่งเข้ามาหาเราและป้องกันตัวเราไว้ได้ทัน (กรี๊ดอีกแล้วค่ะท่าน!!! รูปนี้ทำเอากรี๊ดสุดๆๆๆ >//< ที่ทำเอาเรากรี๊ดเพราะอยู่ๆพี่แกก็วิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้น่ะสิ ถ้าอย่างเหตุการ์ณแบบในtenipuriที่อาโตเบะเข้ามาช่วยเรายังไม่เท่าไหร่ เพราะพี่แกยืนอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว แถมไม่ได้เอาตัวเข้าแลกแบบชินยะคุงด้วย ที่เอาตัวเข้ารับแทน >//< )

 
ชินยะจะถามว่าเราไม่บาดเจ็บอะไรนะ แล้วก็จะถามว่านิ้วไม่เป็นอะไรนะ เพราะการวาดรูปนิ้วเป็นสิ่งสำคัญ แล้วชินยะก็จะเล่าให้ฟังว่าเขาไม่ได้จะไปต่างประเทศพร้อมกับพ่อหรอกนะ(เพราะ เราอยู่ที่นี่) แล้วหลังจากนั้น... เราก็จะจูบกัน ^//^ (ถ้าแปลไม่ผิดนะ เพราะไม่มีรูป)
 
สุดท้าย เราก็ไปงานแกลลารี่พร้อมชินยะ และเดินจูงมือออกมาด้วยกันเป็นฉากจบค่ะ ^0^
 
ปล.จริงๆมีอีกรูปเว้นท์นึง แต่เราจำเนื้อเรื่องไม่ได้จริงๆอ่ะ มันเป็นรูปเราไปดูดาวกับชินยะ
 
แถมท้ายนิด กับรูปที่จะได้ตอนเล่นจบแบบคู่พี่น้อง(ชินยะ-เซย์จิ)

น่ารักมากๆๆๆ >//<
เป็นตอนงานคริสมาสต์ เซย์จิจะขอให้เราป้อนเค้กให้ โดยมีสายตาไม่พอใจ(หึง)ของคุณพี่มองมา
 
เป็นการจบคู่ที่เราชอบที่สุดในจำนวน3คู่(ชินยะ-เซย์จิ / อากิระ-เคตะ / ฮิโรโตะ-นัตจัง) แล้วล่ะ เนื้อเรื่องแอบน่ารักอ่ะ หุๆ
 
จะเล่าฉากจบของคู่นี้ให้ฟังนิดๆล่ะกัน อิอิ
ก็ฉากจบจะเป็นว่า ชินยะและเซย์จิ จะมาที่บ้านเรา แล้วเซย์จิก็จะชวนเราไปเที่ยว(เดทนั่นเอง) แต่ชินยะก็จะแย้งขึ้นว่า นายมีนัดฝึกงานกับมาซาโตะซังไม่ใช่หรอ? เซย์จิก็จะบอกว่าไม่เป็นไร โดดสักวันไม่เป็นไรหรอก แต่ชินยะก็จะบอกว่าไม่ได้ แล้วชินยะก็จะหันมาชวนเราเดทแทน ฮะๆๆๆ แต่สุดท้ายก็เป็นว่า เราเลยบอกว่าไปเที่ยวด้วยกันทั้งสามคนล่ะกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น