วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Love revo!! - Fukami Souta

วันนี้เรามารีวิวหนุ่มจากเลิฟรีโวเพิ่มอีกคนแล้วค่า~
พ่อหนุ่มคนนี้คาดว่าจะรีวิวค่อนข้างละเอียดกว่าคนที่แล้ว เพราะเราเล่นเกมส์ไปจดไปล่ะค่า ^^

ฟุคามิ โซตะ หนุ่มน้อยรุ่นน้องผู้ร่าเริง
 

หมอนี่น่ารักมากค่ะ~ เพราะว่าตอนเจอเราครั้งแรก เป็นคนเดียวที่ไม่ได้ว่าเราเรื่องอ้วน
แต่กลับยิ้มร่าเริงต้อนรับเราอย่างดีใจ น่ารักจริงๆเลยค่ะ >//<
แถมหลังจากไปโรงเรียน ก็รีบแวบมาหาเรามาคุยด้วยกับเราทันที
แล้วก็เรื่ืองก็ดำเนินแบบเดิม~


ทีนี้พอถึงตอนกำลังคิดว่าจะไปกินขนมอยู่ก็ตัดสินใจว่าจะเดินไปคิดไป
แล้วก็ไปเจ๊อะเข้ากับโซตะคุง หมอนี่จะบอกว่าเขามายืนรอเราอยู่
(ไม่ยอมเข้าห้องเรียน บอกว่ารำคาญพวกคนอื่นๆ หมายถึงบรรดาแฟนคลับล่ะนะ)
แล้วก็บอกว่าเห็นซื้อขนมมาฝากเราด้วย ตอนแรกเราก็จะไม่ยอมกิน แต่สุดท้ายก็ถูกหมอนี่กล่อมจนยอม
จากนั้นโซตะก็จะบอกว่าจะไปซื้อน้ำดื่มมาให้ พอหมอนี่ไป เราก็จะถูกบรรดาแฟนคลับหมอนี่รุมและขู่
และตอนนั้นเราก็เป็นลมล้มลงไป ฟื้นอีกทีก็เจอหน้าคุณพี่ชายแล้ว~

มีอยู่วันนึง โซตะคุงเข้ามาหาเราที่ห้อง แล้วก็คุยกันว่าเราเล่นกีฬาเปล่า เราก็จะบอกว่าเล่นบ้าง
แล้วทีนี้นางอิจฉา(ซึ่งเราลืมชื่อไปแล้ว)ก็จะเข้ามาพูดกับเรา ตามแบบนางร้ายคือพูดแหน็บแหนมเรา
ขณะกำลังเหน็บเราอยู่ จู่ๆก็มีเสียงดังโครมใหญ่ เมื่อหันไปดูปรากฏว่าเป็นฝีมือโซตะคุงที่ฟาดมือลงบนโต๊ะ
หมอนี่จะออกมาปกป้องเราค่า!!! (แอบปลื้ม~ ภาพเท่ห์มาก >//<)

"เธอน่ะ ตั้งแต่ตะกี้พูดอะไรของเธอ ไม่เข้าใจความหมายเลยสักนิด!!"

เขาจะว่าๆผู้หญิงคนนี้ไป และปิดท้ายว่า
"ไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร แต่ว่า.. ถ้าพูดอะไรแปลกๆกับรุ่นพี่อีกล่ะก็ ผมจะไม่ยอมยกโทษให้นะ"

จากนั้นโซตะคุงก็จะหันมาปลอบเราบอกว่า อย่าไปใส่ใจเลยนะ
พอเราถาม เขาก็จะบอกว่า "ก็รุ่นพี่โดนพูดถึงขนาดนั้น ให้เงียบอยู่ไม่ได้หรอกไม่ใช่หรอ?
ไม่ต้องกังวลหรอก ไม่ว่าเมื่อไหร่ ผมก็จะคอยช่วยเหลือเอง
คนอย่างนั้นน่ะ จะไม่ยอมให้พูดได้ตามใจตัวเองอีกแล้ว" (ช่างเป็นรุ่นน้องที่น่ารักจริงๆเน้อ~)

และแล้วก็ถึงวันที่เรา้ต้องไปเที่ยว
เมื่อพี่ชายไปไม่ได้เราจึงไปชวนโซตะคุง ซึ่งโซตะคุงจะตอบรับด้วยความดีใจ
และเสนอให้ไปที่ธีมปาร์คของโรส(สวนสนุกแห่งนึงมั๊ง) เพราะเห็นทางทีวีน่าสนุก

ในวันที่ไปเที่ยว ที่พักจะเป็นปราสาท ตอนแรกโซตะคุงจะบอกว่าน่าอายที่พักแบบนี้
แต่เพื่อนๆเราจะบอกว่าไม่เห็นน่าอายเลย แบบนี้ก็เหมาะกับโซตะคุงแบบว่าเป็นเจ้าชายไง
โซตะคุงก็เลยยอมเข้าไป และบอกว่าถ้าเขาเป็นเจ้าชาย เราก็คือเ้จ้าหญิง
สำหรับห้องพักก็เช่าสองห้อง โดยสาวๆสามคนอยู่ด้วย โซตะคุงอยู่ห้องข้างๆ
โซตะคุงจะแอบบ่นว่าอย่างนี้เขาก็ต้องอยู่คนเดียวหรอ
พวกเราก็จะบอกว่าห้องมันติดกัน มีประตูไปหากันได้ด้วย
โซตะคุงก็จะบอกว่า แต่พอปิดประตูก็อยู่คนเดียวนี่นา เราก็จะช่วยพูด จนสุดท้ายโซตะคุงก็ยอม
แล้วเขาก็จะบอกว่า แต่ถ้าเขาเหงาจะเข้าไปรบกวนพวกเราด้วย~
(แบบว่าหมอนี่เป็นคนขี้เหงาน่ะค่ะ หึๆๆ มีคืนนึงเราไปเจอหมอนี่ตอนดึก
พอคุยๆไป ก็จะได้ความว่าเขานอนไม่ค่อยหลับเพราะไม่ชอบนอนคนเดียว
ปกติเวลานอนก็มักจะเปิดทีวีเพื่อให้ไม่เงียบเหงาด้วยล่ะค่ะ) 

วันต่อมาก็ไปเที่ยวกัน แต่โซตะเล่นมากไปจนเพื่อนๆเราเริ่มไม่ไหว
เราก็เลยไปซื้อน้ำ(มั๊ง)กับโซตะคุง ตอนแรกเขาจะไปคนเดียว
และบอกว่าถือ4อันคนเดียวไหว แต่สุดท้ายเราก็ไม่ยอมและจะไปช่วยถือให้
ตอนไปซื้อ พอจะกลับเราก็หาโซตะคุงไม่เจอ แล้วก็ไปเห็นหมอนี่กำลังยืนมองพ่อลูกมาเที่ยวด้วยกัน
แล้วเขาก็จะบอกว่าเขารู้สึกไม่สบาย แล้วเราก็เลยบอกว่างั้นพักสักหน่อยแล้วกัน
ทีนี้ระหว่างพักเขาก็จะุคุยให้เราฟังว่าเขาน่ะ ไม่เคยนั่งบนไหล่ของพ่อเลยนะ
ครอบครัวเขา เมื่อก่อนเป็นร้านเล็กๆ แต่ถึงงั้นก็เป็นครอบครัวที่อยู่ร่วมกันมีความสุข
พอเดี๋ยวนี้ร้านใหญ่ขึ้น ต่างคนต่างก็เริ่มไม่มีเวลาให้กัน เขาต้องอยู่คนเดียว
แต่ก็มีคุณย่ามาอยู่ด้วยเวลาเขาอยู่คนเดียวนะ แต่ตอนนี้คุณย่าร่างกายไม่แข็งแรงแล้ว
แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าอีกเดี๋ยวคนย่าคงจะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม
จากนั้นเราก็จะชวนกันกลับ

คืนนั้น เราก็จะหิว แล้วพอดีโซตะคุงก็จะเรียกเราให้มาหาที่ห้องหน่อย แล้วก็ชวนไปดูงานพาเหรด
เราก็จะไปดูงานพาเหรดกับโซตะคุง หลังจากนั้นท้องก็ร้องขึ้นมาอีก
โซตะคุงก็เลยชวนไปกินข้าว และบอกว่าเขาเองก็หิวเหมือนกัน(เพราะเราพยายามบ่ายเบี่ยง)

หลายวันต่อมา(มั๊ง) คืนนึง เราจะเจอโซตะคุง พอเราถามก็จะได้ความว่า
วันนี้คุณย่ามาหา แล้วเขาก็เลยจะชวนมากินข้าวฝีมือคุณย่าด้วยกัน
หลังจากกินข้าวเสร็จเขาก็จะมาส่งเราที่ห้อง และบอกว่าคราวหลังถ้าคุณย่ามาอีกก็มากินกันอีกนะ

ในงานกีฬาสี โซตะคุงจะมาบอกเราว่าเขาจะเอาที่หนึ่งมาให้ได้เลย สัญญา
แล้วพอตอนแข่งเราก็จะเห็นว่ามีเอส(พวกที่เก่งมากๆอ่านะ)อยู่ด้วย ก็เริ่มกังวลว่าโซตะคุงจะชนะรึเปล่า
แล้วก็จะเห็นว่าโซตะคุงยังอยู่เป็นรอง ก็เลยจะตะโกนเชียร์

สุดท้ายโซตะคุงก็คว้าที่หนึ่งมาได้จริงๆ แล้วเขาก็จะบอกว่า เพราะเขาสัญญากับเราไว้แล้วนี่นา
เขาจะไม่ยอมเป็นคนพูดโกหกหรอก และยังบอกว่า เพราะเราให้กำลังใจเขาเลยทำได้ดีกว่าทุกครั้ง
พอถึงตาเราแข่ง เรากลับล้มเป็นแผล โซตะคุงก็มาพาเราไปห้องพยาบาล
อาจารย์ก็ดูแผลให้ แล้วก็บอกให้เราอยู่ที่นี่สักพัก โซตะคุงเลยจะขออยู่กับเราด้วย
(ทำให้โดนอาจารย์พูดประมาณว่าเหมือนกับลูกสุนัขเลย อะไรประมาณนี้ล่ะ)
โซตะคุงจะบอกว่า ถึงไปแข่งต่อ แต่ถ้าไม่มีรุ่นพี่มาคอยให้กำลังใจ ก็คงไม่สามารถพยายามได้หรอก
จากนั้นโซตะคุงก็จะแบ่งให้ขนมเรากิน

ในวันงานโรงเรียน โซตะคุงจะแสดงละคร ส่วนเราก็อยู่หลังฉาก
แล้วโซตะคุงก็จะมาหาเราหลังฉาก และมาซ้อมบทกับเรา(ก็พูดบทหวานๆนั่นแล)
เราก็จะแอบใจเต้น แต่พอโซตะคุงถามว่าเป็นไง เราก็จะอืมก็นิดหน่อย
โซตะคุงก็จะบอกว่า แค่นิดหน่อยเองหรอ แล้วเขาก็จะบอกว่า อยากเป็นผู้ใหญ่ไวๆจัง
จากนั้นอยู่ๆก็จะพาเราไปที่อื่น เราก็จะงงๆแต่ก็ตามไป ทีนี้ก็มาถึงตรงแถวขั้นบันได
และก็ปรากฏว่า...

ที่ทำแบบนี้เพื่อให้ตัวเองยืนอยู่บนขั้นบันไดเหนือเราจะได้ดูสูงขึ้นนั่นเอง
แล้วเขาก็จะบอกว่า ไม่พอจริงๆด้วยสิน้า ต้องขึ้นบันไดไปสองขั้น
จากนั้นเขาก็จะพูดประมาณว่าเพื่อจะกอดได้(มั๊ง) แล้วก็เขาจะปกป้องคนที่เขารักจา่กทุกๆสิ่ง
และทีนี้ก็จะถามเราว่า เป็นไงบ้าง รู้สึกถึงหัวใจเต้นรึเปล่า
เราก็จะบอกว่า ไม่รู้สิ โซตะคุงก็เลยจะพูดๆประมาณว่าเราเป็นคนแบบว่ารู้สึกยากจังอะไรประมาณนี้ล่ะนะ

ในวันคริสมาสต์ โซตะคุงจะมาหาเราที่บ้านแล้วเราก็จะไปเ่ที่ยวกัน
ตอนแรกก็จะไปสวนสนุก โซตะคุงก็จะชวนเล่นโน่นนู่นนี่ จนเราเหนื่อย
และยังชวนเล่นอะไรที่หวาดเสียวอีกเยอะแยะ จนสุดท้ายเราก็บ่นว่าโซตะคุงว่าไม่เอาแล้ว
แล้วตอนนั้นโซตะคุงก็จะแอบบ่นกับตัวเอง ประมาณว่าถ้าเรากลัวก็กอดเขาสิ
พอเราถามเขาก็จะบอกว่า ไม่มีอะไรๆ จากนั้นก็ชวนไปเกมส์เซ็นเตอร์กันต่อ
ที่นั่นเราเจอของอยากได้ เลยบอกเขา เขาก็บอกว่ายากจังแต่ก็ลองเล่นดู
สุดท้ายก็เอาให้เราไม่ได้ โซตะคุงก็จะขอโทษเรา
ขากลับก็เอาของขวัญคริสมาสต์ให้เรา และบอกว่าเพราะเขาเอามาให้เราไม่ได้
แต่เขาก็จำได้ว่าเราอยากได้เจ้าตัวนี้ก็เลยซื้อมาให้นะ ^^

คืนนึง เราก็ถามพี่ชายว่าเห็นโซตะคุงรึเปล่า พี่ก็จะบอกว่าเห็นอยู่ที่วัดศาลเจ้าคนเดียว ไม่รู้เป็นอะไรรึเปล่า
เราก็เป็นห่วงเลยออกไปหา ก็เจอโซตะคุงกำลังทำหน้าทุกข์ใจ
เขาก็จะบอกว่ามีคนโทรมาบอกว่าคุณย่าล้มลง ไม่สบายหนัก
แล้วเขาก็จะบอกว่าเขาไม่กล้าไปเยี่ยมเพราะกลัวว่าจะไม่สามารถทำสีหน้าปกติธรรมดาไ้ด้
ถ้าคุณย่าตายไปล่ะ เขาก็จะต้องอยู่คนเดียวอีก
เราก็จะบอกว่า ไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อย มีเราอยู่ด้วย
ทีนี้เราก็จะบอกว่า รอเดี๋ยวนะ แล้วเราก็จะไปจับฉลากเสี่ยงดวง พยายามจับให้ได้ดวงดีมากๆ
หลังจากนั้นก็จะวิ่งกลับมาหาโซตะคุง และบอกว่าดูสิจับหลายทีก็ได้แต่อันที่ดวงดีมาก
แล้วก็จะให้กำลังใจ โซตะคุงก็ขอบคุณเรา และบอกว่าถ้ารุ่นพี่อยู่ด้วยล่ะก็ ถึงจะไม่มีใครอยู่ด้วยก็ไม่เป็นไร

ต่อมาโซตะคุงจะมาชวนเราไปเยี่ยมคุณย่า เพราะก่อนหน้านั้นเราเคยบอกว่าเราจะไปเป็นเพื่อน
ระหว่างทางไปโซตะคุงก็จำทหน้าเครียดตลอด แต่พอเข้ามาถึงในห้องที่คุณย่านอนอยู่ปุ๊บ
โซตะคุงก็จะกลับมาร่าเริงเป็นคนเก่าทันที และบอกว่าขอโทษที่ไม่ได้มาเยี่ยม
แต่เป็นเพราะงานที่ชมรมยุ่งมาก หลังจากออกจากห้องผู้ป่วย โซตะคุงก็จะกลับมาซึมเศร้าตามเดิม
และถามเราว่า เป็นไงบ้าง เขาหัวเราะได้เป็นปกติ ไม่ทำให้คุณป้าเป็นห่วงเรื่องตัวเขาใช่ไหม
เราก็จะบอกว่า อืม แล้วทีนี้เราก็จะเจ๊อะกับคุณแม่คุณพ่อโซตะคุง
พวกเขาจะชวนไปกินข้าวด้วยกัน แต่เราจะช่วยตอบปฏิเสธให้แทนโซตะคุง
เพราะโซตะคุงยังไม่อยู่ในอารมณ์อยากไปกินข้าวด้วย

และแล้วโซตะคุงก็จะมาชวนเราไปเยี่ยมคุณย่าเป็นเพื่อนอีก
วันนี้เราก็จะสังเกตว่าโซตะคุงผอมลงไปมาก ขณะที่ออกมาที่สนาม เราก็บอกว่าจะไปซื้อขนมมาให้
แล้วตอนที่ซื้อขนมอยู่ เราก็จะเจอแม่โซตะคุงเข้ามาคุยด้วย บอกว่าดีจังที่โซตะคุงมีเืพื่อนที่เข้าใจเขา
และบอกว่าก่อนหน้าโซตะคุงก็เคยเป็นแบบนี้ คือตอนที่เขายุ่งกับงานมากจนปล่อยให้โซตะคุงอยู่คนเดียว
โซตะคุงไม่ยอมกินอะไรจนผอมเอาๆแทบจะเดินไม่ได้ แล้วก็จะฝากให้เราดูแลโซตะคุงด้วยได้ไหม
เราก็จะตอบรับ พอออกไปหาโซตะคุง เขาก็จะถามเราว่าเราจะไปทัศนศึกษาแล้วสินะ
เขาก็จะบอกว่าไม่ต้องห่วงเขานะ ถึงจะเหงาสักหน่อยที่รุ่นพี่ไม่อยู่ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก
เราก็จะสัญญากับเขาว่าจะโทรมาคุยด้วย

วันไปทัศนศึกษา เราก็โทรไปหาโซตะคุง เขาก็จะขอโทษที่ทำให้เราเป็นห่วงและสร้างปัญหาให้เรา
เราก็จะปฏิเสธไป แล้วก็จะบอกเขาว่า เราเองก็อยากคุยกับเขาเหมือนนะ
แล้วโซตะคุงก็จะบอกว่า ผมเองก็เหมือนกัน อยากจะได้ยินเสียงรุ่นพี่มากๆ
ก่อนจะวางสาย โซตะคุงก็จะบอกว่า กลับมาเร็วๆนะ เขาคิดถึงใบหน้าของรุ่นพี่
จากนั้นวันต่อมาเราก็จะซื้อของฝากไปให้คุณย่ากับโซตะคุง

ในที่สุดวันวาเลนไทน์ก็มาถึง เราก็จะเอาชอกโกไปให้โซตะคุง แต่ปรากฏว่าโซตะคุงไม่มาโรงเรียน
ระหว่างที่เรากำลังกังวล และเดินไปบนดาดฟ้า ก็มีคนโทรเข้ามา ปรากฏว่าเป็นโซตะคุง
เขาจะบอกว่าวันนี้คุณย่าดีขึ้นแล้ว จากนั้นก็จะถามว่าเราอยู่ไหน
เราก็จะบอกว่าอยู่บนดาดฟ้า แล้วอยู่ๆสายก็ตัดไป หันมาอีกทีก็เจอโซตะคุง
เขาจะบอกว่า ว่าแล้วเชียวว่ารุ่นพี่ต้องอยู่ที่นี่ จริงๆแล้วเขาเดินตามหามาตลอดเลยล่ะ
แล้วเขาก็จะถามว่า...
เอามาใช่มั๊ย? ชอกโกแลตของผมน่ะ (แอบอึ้ง หมอนี่ร้ายแฮะ)
ผมน่ะ ตั้งตารอมาตลอดเลยนะ~
แล้วเราก็จะหยิบชอกโกออกมาให้ แล้วเขาก็จะถามว่า
ไม่ใ่ช่กิริชอกโก(ชอกโกที่ให้ขอบคุณตามมารยาท) สินะ?
(อึ้งหนักกว่าเก่าสิคะ หมอนี่ ร้ายอ่ะ ทำเอาเราเขินอยู่หน้าจอทีวีเลย ถามงี้จะตอบไงดีล่ะ)
ปรากฏว่า คุณนางเอกเธอบ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบ และบอกว่ารีบกินเถอะ

ในวันไวท์เดย์ โซตะคุงจะรอเราที่สนาม
โซตะคุงจะบอกให้เราปิดตา แล้วพอเปิดตาก็จะเห็นของที่เราอยากได้ตอนไปเกมส์เซ็นเตอร์คราวนั้น
จากนั้นโซตะคุงก็จะบอกว่า ก่อนหน้านี้ เรื่องของคุณย่าน่ะ เขาดูน่าสมเพชมากเลย
ทั้งๆที่อยากจะรีบโตเป็นผู้ใหญ่เร็วๆเพื่อปกป้องรุ่นพี่
แต่ว่า ครั้งหน้า จะพยายามให้มากขึ้น อยากจะช่วยเหลือรุ่นพี่ได้
ครั้งหน้า ผมจะเป็นคนปกป้องรุ่นพี่เอง
เพราะฉะนั้น ขออยู่ดูแลปกป้องได้ไหม อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ
เราก็จะตอบรับ ทีนี้โซตะคุงก็จะขอเรียกชื่อเราโดยไม่มีคำว่ารุ่นพี่ และชวนกลับบ้านด้วยกัน
แต่เพราะโซตะคุงลืมของ เลยขอตัวไปเอาก่อน
ตอนนั้นเหล่าแฟนคลับโซตะคุงก็จะโผล่มา แต่ก่อนที่พวกนั้นจะทำอะไร โซตะคุงก็จะโผล่มาช่วย
"บอกไปแล้วไม่ใช่หรอ ว่าถ้าทำอะไรผู้หญิงคนนี้ จะไม่ยอมยกโทษให้"
แล้วโซตะคุงก็จะดึงเรามาจูบต่อหน้าเหล่าแฟนคลับ
จากนั้นก็หันไปหาพวกนั้นและพูดว่า
"ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถมาแทนที่เธอคนนี้ได้"
"ก็อย่างที่ว่าไป ผมกับเธอรักกัน เพราะงั้นเลิกมาวุ่นวายขัดขวางเสียทีได้ไหม"
"ครั้งหน้าถ้าทำอะไรเธออีกล่ะก็ จะโกรธจริงๆนะ ผมน่ะ"

หลังจากนั้นก็ตัดฉากมาที่ห้องของโรงพยาบาลขณะยินดีกับการออกจากโรงพยาบาลของคุณย่า
นั่งขำตอนนี้เพราะว่า ขณะที่พวกเรากำลังคุยกับโซตะคุง
คุณพี่ชายเราที่มาด้วย(หลังจากเขม่นอยู่นาน)ก็จะตะโกนขึ้นมาบอกว่าเดี๋ยวก่อนสิ
แล้วก็โวยวายว่าเรามาคบกับเจ้าchibi(ตัวเล็ก?)คนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
แล้วโซตะคุงก็จะอึ้ง บอกว่า เอ๋ หรือว่า.. อิจฉา(หึง)งั้นหรอ?
คุณพี่ชายก็จะโวยวายบอกว่า ไม่ใช่!!! ว่าแต่ก่อนที่จะมาคุยกุ๊กกิ๊กกับน้องสาวชั้นน่ะ
มีเรื่องที่จะต้องพูดกับชั้นก่อนไม่ใช่หรอ
โซตะคุงก็จะนึกๆ แล้วก็อ๋อ จากนั้นก็หันไปพูดกับคุณพี่ชาย
จากนี้ก็ขอฝากตัวด้วยนะครับ พี่ชาย
ผมจะให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนนี้มากๆ เพราะงั้นไม่ต้องห่วงหรอกนะครับ
แต่คุณพี่ชายกลับโวยวายกลับทันทีว่า ไม่ใช่!!! ไม่ใช่อย่างงั้น~~
จากนั้นโซตะคุงก็จะหันมาคุยกับเราชวนเราไปเที่ยว เราก็ตอบรับ
คุณพี่ชายก็จะหันมาโวยวายว่า เฮ้ อย่าตัดสินใจอะไรกันเอาเองสิ!!!
(เป็นตอนจบที่เราชอบมากมาย เพราะนั่งขำพี่ชาย 555
เป็นคนแรกนะเนี่ย ที่คุณพี่แกมาเป็นก้างขวางคอแบบนี้ หุๆๆๆ)

กรี๊ดฉากบทปัจฉิมค่า~~ >//< รูปนี้แบบว่า... เห็นแวบแรกคิดไปถึงทาจิบานะ เค็นโนะสุเกะคุงเลยอ่ะ!!!
เสียงก็เปลี่ยนดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น อันนี้เป็นช่วงตอนอยู่มหาลัย
โซตะคุงจะสารภาพกับเราว่า จริงๆแล้วที่เขาบอกว่าอยากเป็นผู้ใหญ่เร็วๆน่ะ
ยิ่งกว่าการที่จะปกป้องเราได้ แต่เพื่อที่เราจะได้ไม่หนีเขาไปด้วย
แล้วก็จะถามว่า เราโกรธรึเปล่า?
เราก็จะบอกว่าไม่หรอก แล้วก็ถามว่า แล้วตอนนี้ล่ะ
โซตะคุงก็จะพูดประมาณว่า ตอนนี้เขาอยากเป็นผู้ใหญ่เพื่อจะไม่ทำความลำบากให้เรา และเพื่อปกป้องเราได้

จบแล้วค่า!!! สำหรับพ่อหนุ่มโซตะคุงนี่... เล่นๆไปแล้วให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแม่เลยแฮะ เหอๆๆ
ก็หมอนี่ยังมีนิสัยเด็กๆอยู่ ขี้เหงาด้วย ต้องให้เราคอยดูแลคอยเป็นห่วงอ่ะ
แต่ว่า... บางเวลาก็เป็นคนที่พึ่งพาได้น้า~ (ที่มาช่วยเราจากพวกผู้หญิงที่มารังแกน่ะ)
สรุปได้ว่า.. เป็นคนที่นิสัยดูเป็นเด็กๆขี้อ้อน ขี้เหงา แต่ก็เป็นที่พึ่งพาได้ปกป้องเราได้เช่นกันค่ะ หึๆๆ

ปล.เช่นเดิมนะคะ ขอบคุณสำหรับรูปจากมิวจังค่า~

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น