วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Love revolution - Masaki Kahara

วันนี้เราก็เอาหนุ่มอีกหนึ่งหนุ่ม(ผู้มีหน้าตาละม้ายคล้ายคุณพี่ชาย Takashi-oniichan ของเราตัวเอก) มารีวิวให้ฟังแล้วนะคะ

มาซากิ คาฮาระ พ่อหนุ่ม no.2 ของโรงเรียน รองจากตาเร็นจอมเย็นชา
มาซากินี่ตอนเจอหน้ากันครั้งแรก พี่ท่านจะหัวเราะเราค่ะ -_-" แล้วก็บอกว่าถึงตอนปี1เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เขารู้จักเรานะ เพราะเราเป็นคนมีเอกลักษณ์ดี (ประมาณว่า ท่านน่ะอ้วนมากกกกกกกกกกกกกกก)


หลังจากไปโรงเรียนวัน แรก ก็เหมือนเคย ได้ขนมจากเซนเซ เราก็เดินไปหาที่กินแถวสนามหญ้า(<-- เฮ้ๆๆ พูดแบบนี้อย่างกับไปเดินหาหญ้ากินเลยแฮะ ^^" ) แล้วเราก็จะไปเจอมาซากิเล่นกับสุนัขอยู่ค่ะ (ไม่ขอพิมพ์ชื่อสุนัข เพราะเราว่าชื่อมันประหลาดอ่ะ)
จากนั้น ก็จะคุยๆกัน มาซากิจะบอกว่าเขาพาสุนัขมาเดินเล่น แล้วอะไรสักอย่าง ทำให้พามาที่โรงเรียนด้วย แล้วก็จะมีพูดถึงว่า ที่แมนชั่นเรา เห็นว่าเลี้ยงสัตว์ได้ เราก็บอกว่าอืม แล้วจากนั้นเขาก็จะพูดประมาณว่า ที่เขาพาสุนัขมานี่ ให้เก็บเป็นความลับด้วย
อ้อ แล้วก็... ตอนที่เราไปถึงที่นั่นน่ะ เจ้าสุนัขตัวนั้นมันก็วิ่งเข้าใส่เรา แล้วทีนี้ พอรู้สึกตัวอีกที ขนมที่เซนเซให้ก็หายไปแล้ว!!! ซึ่งก็เดาได้โดยง่าย ก็คือ โดนเจ้าสุนัขของมาซากิมันเขมือบไปนั่นเอง เหอๆๆ ทีนี้ เขาก็จะขอโทษ และบอกว่าจะไปร้านคอนวิเนียน เดี๋ยวจะซื้อของมาให้ อยากจะเอาอะไร เราก็จะบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวจะไดเอท มาซากิก็เลยแปลกใจ ถามว่าทำไม เราก็จะอธิบายว่า เพราะหลายๆอย่างรวมถึงเพราะมาซากินั่นล่ะ หัวเราะใส่เราไม่ใช่หรอ แล้วเขาก็จะตกใจนิดๆ ประมาณว่าเขาไม่ได้ตั้งใจแบบนั้น แล้วเขาก็บอกแล้วไงว่าเราเป็นคนมีเอกลักษณ์ดี เราก็จะพูด(หรือคิดในใจ?)ว่า นั่นไม่ใช่คำชมเลยนะ แล้วมาซากิก็จะพูดประมาณว่า ตัวเราก็คือตัวเรา ไม่ต้องไปแคร์สายตาคนอื่น อะไรประมาณนี้ล่ะ

จากนั้นก็ถึงเว้นท์สุนัข~
ก็คือว่า... เราไปเดินเล่น แล้วก็จะเจอมาซากิคุงที่กำลังตามหาสุนัขของตนที่หายไป (<--- เล่นๆไป รู้สึกอย่างกับเจ้าสุนัขตัวนี้มันเป็นพ่อสื่อให้เราเลยแฮะ เหอๆๆๆ) แล้วทีนี้เราก็เลยบอกว่าจะช่วยตามหา แล้วก็แยกย้ายกันตามหา เราก็ตามหาตั้งนานก็ยังไม่เจอสักที~ แต่เราก็ไม่ยอมแพ้ สุดท้าย เราก็ไปเจอเจ้าสุนัขของมาซากิ รู้สึกจะติดอยู่ในอะไรสักอย่างมั๊ง กว่าเราจะช่วยออกมาได้ ทั้งตัวเราและสุนัขก็มอมแมมไปหมด
มาซากิก็วิ่งมาหาเรา แล้วก็ดีใจที่สุนัขของตนไม่เป็นไร ก็คุยๆ(?)กับสุนัขบอกว่าให้ขอโทษเราด้วย แล้วเจ้าสุนัขก็เห่าตอบ เราก็เลยล้อว่าอย่างกับเจ้าตัวนี้เข้าใจที่มาซากิคุงพูดเลย
จากนั้นเราก็กลับมาที่แมนชั่นกัน แล้วมาซากิก็ขอโทษๆที่ทำให้เราลำบาก และก็จะพาสุนัขตัวเองไปอาบน้ำ แต่เจ้าสุนัขตัวนั้นก็ดันกระโจนเข้าใส่เราอีก คุยกันไปๆมาๆ กลายเป็นว่าเราก็เลยเข้าไปในห้องมาซากิช่วยมาซากิอาบน้ำให้เจ้าสุนัขตัวนั้นซะ~ (หุๆๆ ชอบรูปนี้ มาซากิแอบเปิดอกด้วย เหอๆๆ) พออาบน้ำเสร็จก็แยกย้ายกันไป

ตอนไปทัศนศึกษา เริ่มมาก็เหมือนเดิม ให้เลือกว่าจะไปชวนใคร
เราก็ไปชวนมาซากิคุงอยู่แล้ว~ ก็จีบมาซากิคุงอยู่นี่นา เหอๆๆ
พอเราไปชวน ตามาซากิดันบ้าจี้ หันไปชวนเพื่อนๆในห้องไปกันทุกคนเลยซะงั้น เราก็อึ้งๆ แต่จะห้ามก็ไม่ได้ สุดท้ายก็เลยไปกันทั้งห้อง ^^" (ก็รู้ๆกันอยู่ว่าพ่อหนุ่มมาซากิเขาป๊อบอ่าน้า~~~ ถ้าเป็นตัวเราชวนคงไม่มีใครไปหรอก เหอๆๆ) แล้วทีนี้ก็คุยๆกันว่าจะไปไหนดี พวกเพื่อนสาวเราเขาก็บอกว่าไปทางคันไซกันเถอะ แล้วสุดท้ายก็ตกลงกันว่าจะไปโกเบกัน~
วันไปทัศนศึกษา....
เราก็เดินไปกับพวกเพื่อนหญิงเรา แล้วทีนี้ต่อมาเขาก็จะชวนไปซื้อของ แต่เราจะปฏิเสธไป รู้สึกว่าจะเพราะเราจะไปหาอะไรกิน เสร็จแล้วทีนี้เราก็แยกกัน
ระหว่างเดินๆ ก็ไปเจอโบสถ์เข้า ก็เลยเดินเข้าไป แล้วก็เห็นมาซากิคุงกำลังยืนมองอะไรบางอย่างอยู่ และด้วยความซุ่มซ่ามของตัวเอก มาซากิคุงก็เลยเห็นเราเข้า แล้วก็เลยคุยกัน รู้สึกว่าสิ่งที่เขากำลังมองอยู่ก็คือไม้กางเขนที่อยู่ในโบสถ์น่ะ (โบสถ์งามมากๆค่ะ งามซะจนเราถ่ายฉากโบสถ์อย่างเดียวมาเก็บไว้เลยล่ะค่ะ)
จากนั้นมาซากิก็จะพูดถึงคำสอนของพระเยซูที่เกี่ยวกับเรื่องความรักน่ะค่ะ ที่สอนให้รักคนอื่น อภัยให้คนอื่นอะไรประมาณนี้นี่แหล่ะ... แล้วมาซากิก็จะพูดต่อว่า...
พระเยซูเนี่ยไม่โกรธเคืองคนที่หักหลังตนเองเลยหรอ? เพราะว่าโดนหักหลังทำให้ต้องมาถูกตรึงอยู่แบบนี้ ยอมอภัยให้ได้หรอ? (อะไรประมาณนั้น) แล้วมาซากิก็จะหันมาถามเรา ว่าถ้าโดนแบบนั้นเราจะไม่โกรธหรอ ไม่แค้นเคืองหรอ จะสามารถยอมยกโทษให้ได้หรอ
เราก็จะตอบไปว่า... คงจะไม่สามารถยกโทษให้ได้ แต่ว่า... เพราะพระเยซูต่างไปจากคนทั่วไป เขาคงจะยกโทษให้เพราะหวังให้กลับตัว (อะไรประมาณนี้แหล่ะมั๊ง อันนี้ไม่แน่ใจนะ)
จากนั้นมาซากิก็จะหยุดทำท่าทางแปลกๆที่ไม่เหมือนมาซากิคุงที่เราเคยรู้จัก และกลับมาเป็นคนเดิม เขาจะบอกว่าขอโทษที่พูดอะไรแปลกๆ แล้วก็ชวนกลับโรงแรมกัน
พอกลับมา เราก็เจอเพื่อนนักเรียนชวนออกไปคุยกันสองต่อสอง.. อ๊ะๆ อย่าเพิ่งคิดลึก~ เพื่อนที่ว่าเป็นผู้หญิงค่ะ แล้วที่อยากคุยกันสองต่อสอง เพราะจะมาหาเรื่องเราค่า~~~
เขาจะมาหาเรื่องเราเพราะเห็นเรากลับมาพร้อมกับมาซากิ ก็เลยมาว่าเราว่าเราไปเดินกับมาซากิกันแค่สองคนได้ยังไง เราก็จะแก้ตัวว่าไม่ได้เดินสองคน แต่บังเอิญไปเจอต่างหาก แล้วเลยกลับมาด้วยกัน ไปๆมาๆ ขณะนางเอกอย่างเรากำลังโดนรังแก พระเอกอย่างมาซากิคุงก็เลยเข้ามาช่วยไว้ เขาก็จะบอกว่า มีอะไรกันหรอ ดูเหมือนจะมีเรื่องทะเลาะกันอยู่นะ? เจ้าเพื่อนคนที่รังแกเราก็รีบบอกว่าไม่มีอะไร ไม่ได้มีเรื่องกัน แค่คุยกับเราเท่านั้นเนอะ เราก็อืมๆตอบไป แล้วมาซากิก็จะชวนไปเล่นไพ่กันที่ห้อง แล้วเพื่อนคนนั้นก็จะรีบไปที่ห้อง(เล่นไพ่) ส่วนมาซากิก็จะคุยกับเราต่อว่าตะกี้เขาเห็นว่าเรามีเรื่องกันอยู่นี่นา แล้วก็จะบอกว่า ถ้ามีอะไรก็บอกเขาได้นะ จากนั้นเขาก็จะชวนเรากับเพื่อนเราไปเล่นไพ่กันด้วย~
วันต่อมาก็กลับค่ะ... ไม่มีอะไรมาก~ แค่เว้นท์ที่เริ่มเผยธาตุแท้ของมาซากิให้ดู คึๆๆ

ในช่วงวันงาน ขณะที่เรากำลังเดินๆดูงานอยู่ ก็ได้ยินเสียงจ๊อกแจ๊ก ก็ไปดูเลยเห็นมาซากิคุงแข่งฟุตบอล (เห็นภาพนี้แล้วแอบนึกถึงภาพตอนเคนคุงแข่งบาสล่ะ เหอๆๆ) หลังจากดูพวกเขาแข่งกัน สักพักก็มีอาจารย์มาไล่ พวกนั้นก็เลยรีบวิ่งหนีกันใหญ่ (คือพวกนี้เขาไปแข่งกันเองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอาจารย์อ่านะ)
แล้วทีนี้เราก็จะไปเจอมาซากิคุงแล้วก็คุยๆกัน ได้ความว่า... พวกนักบอลต่างโรงเรียนนั่นมาขอให้มาซากิแข่งด้วย(ซึ่งมีเหตุผลก่อนหน้านั้น แต่เราขี้เกียจแปล เหอๆๆ) แล้วมาซากิก็จะบอกว่า เขามาพูดแบบนี้แล้วจะให้ปฏิเสธไปได้ยังไง (อะไรประมาณนี้ล่ะค่ะ)

ในงานแข่งกีฬา เราจะเล่นวิ่งสามขากับมาซากิคุง
ก่อนหน้าจะเริ่มแข่งเราก็ตื่นเต้นๆ มาซากิคุงก็จะบอกว่าไม่ต้องห่วงเขาจะคอยช่วยเอง ทีนี้ระหว่างเล่น เราก็เผลอสะดุด และคิดว่าจะล้มแล้ว แต่กลับไม่ล้ม เพราะมาซากิคุงฉุดไว้ ตอนนั้นเราก็จะแอบคิดในใจว่า มาซากิคุงนี่แรงเยอะจังเลยนะ แบบนี้ถ้าถูกกอดคงจะไม่สามารถหลุดออกจากอ้อมกอดได้ง่ายๆแน่เลย (จำประโยคชัดๆไม่ได้ แอบลืมแล้ว รู้แต่ว่า... อ่านแล้วอึ้ง เฮ้ย! นี่คุณเธอคิดอะไรของเธออยู่เนี่ย!!!)
แล้วนางเอกก็จะรู้สึกตัวว่านี่ตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย ก็เลยหยุดคิดๆ จากนั้นเราก็จะหวาดๆหวั่นๆตื่นเต้นๆอีก สุดท้าย มาซากิเห็นเราตื่นเต้นมากก็เลยฉุดเราเข้าข้างทาง เหอๆๆ
มาซากิจะคุยกับเราด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ปลอบเราบอกว่าใจเย็นๆ ไม่ต้องห่วง เขาจะคอยนำเอง อะไรประมาณนี้ล่ะค่ะ สุดท้าย พอเราเริ่มเย็นลง ก็กลับมาวิ่ง และก็ชนะด้วยอ่ะ มาซากิก็จะบอกว่า เห็นมั๊ยล่ะ (ชนะได้ไงว่า ทั้งๆที่เสียเวลาแอบหลบไปหยุดพักทำใจเย็นมาด้วยเนี่ยนะ แสดงว่าวิ่งเร็วจริงๆ)

วันหนึ่งอยู่ดีๆมาซากิก็มาชวนเราไปซื้อของวันคริสมาสต์ให้น้องสาว เขาจะบอกว่าเพราะเราเป็นผู้หญิงดังนั้นคงจะเลือกได้ถูก พอเลือกของเสร็จ มาซากิก็จะขอโทษที่ทำให้อยู่ซะดึก ทีนี้เขาก็จะถามว่า พอมีเวลาอีกมั๊ย เราก็จะตอบว่ามี เขาก็จะบอกเราว่าเราอยากไปไหนต่อรึเปล่า เขาจะพาไปเป็นการตอบแทน (แหมมมมมม เราก็อุตส่าห์แอบหวังตอนที่ถามว่าพอมีเวลามั๊ย นึกว่าจะชวนเดทต่อซะอีก >//< ที่แท้ก็แค่จะตอบแทน) เราก็จะปฏิเสธๆ แต่เขาก็ตื้อบอกว่า เขาจะรู้สึกไม่ดี สุดท้ายเราก็เลยยอมรับ แต่ก็บอกเขาว่าไม่รู้จะไปไหนดีอ่ะ เขาก็เลยบอกว่างั้นเขาเลือกสถานที่ให้เอง
มาซากิจะพาเราไปดูวิวที่ดาดฟ้า จากนั้นก็จะแอบเริ่มพูดถึงเรื่องดาร์คๆอีกแล้ว~ จำไม่ค่อยได้แล้วแฮะ ^^" ก็คือเขาจะพูดถึงผู้คนที่เดินกันเบื้องล่าง และพูดประมาณว่า... ตอนนั้นที่เราบอกว่าที่พระเยซูยอมอภัยให้เพราะหวังว่าคนเราจะกลับใจได้ แต่จริงๆมันคงไม่เป็นอย่างนั้นหรอก อะไรประมาณนี้มั๊ง ง่า~ ลืมจริงๆค่ะ ขออภัย >.<

คืนวันหนึ่งเราไปเดินเล่นกับมาซากิกับเจ้าสุนัขคู่กายมาซากิ แล้วทีนี้อยู่ๆเจ้าสุนัขตัวนั้นมันก็ขู่ใส่คนๆนึง
คนๆนั้นก็จะตกใจและหน้าซีดไปนิดเมื่อเห็นมาซากิ แต่ก็ทักทายมาซากิ และถามว่ากลับมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ(อะไรประมาณนี้ล่ะ) และก็บอกว่าเขาน่ะมาหาเพื่อนที่เมืองนี้ แต่มาซากิจะไม่สนใจหมอนี่ และเรียกสุนัขของตนเดินกลับทันที เราก็จะงงๆ แล้วก็หันไปขอโทษแทนมาซากิกับผู้ชายคนนั้นว่าขอโทษด้วยที่มาซากิคุงทำตัวไม่มีมารยาทอะไรประมาณนั้นน่ะ แต่คนๆนั้นจะบอกว่าไม่หรอก เขาผิดเอง(มั๊ง? จำไม่ค่อยได้) แล้วพอเรากลับไปหามาซากิ เราก็จะโวยวายว่าทำไมมาซากิทำตัวแบบนี้ ทีนี้พอโวยวายมากๆเข้า หลังจากพูดจบประโยค มาซากิก็จะทำเสียงเย็นชา และบอกว่า เทศนาจบแล้วใช่มั๊ย และก็จะเริ่มพูดว่าๆและบอกว่า เขาน่ะเกลียดที่สุดเลยคนที่ชอบทำเป็นพูดดี แล้วพอถึงเวลาจริงๆ เดี๋ยวก็จะหักหลังขึ้นมาเอาง่ายๆ บลาๆๆ เราก็จะอึ้งๆว่ามาซากิดูเปลี่ยนไป เป็นอะไรรึเปล่า มาซากิก็จะขำและบอกว่า เขาก็เป็นของเขาแบบนี้อยู่แล้ว ที่เธอคิดว่าเขาเป็นแบบอื่นน่ะ เธอเข้าใจผิดเอง บลาๆๆ สุดท้ายก่อนจะแยกกันเขาก็จะเรียกเราด้วยคำว่า 'คุณ'

หลังจากวันนั้นมา เราก็รู้สึกลำบากใจไม่รู้จะทำตัวยังไงกับมาซากิ และในวันก่อนไปทัศนศึกษา ขณะที่เราคุยๆกับเพื่อนๆ เราก็จะบอกว่าเราเล่นสกีไม่เป็น โทรุคุงเองก็เล่นไม่เป็นเหมือนกัน ทีนี้พวกสาวๆก็เลยบอกว่าไปขอให้มาซากิคุงช่วยสอนสิ แต่เราก็จะไม่อยาก (เพราะเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เจอตามาซากิเผยนิสัยโหดๆให้เห็นนั่นเอง เหอๆๆๆ) แต่อยู่ๆ เจ้าคนที่ถูกพูดถึงก็โผล่ขึ้นมาซะดื้อๆ แถมยังเสนอตัวว่าจะช่วยสอนอีก เราก็ปฏิเสธไม่ออก (ตอนนี้เราแอบคิดว่าตานี่มีแผนร้ายจะแกล้งอะไรเรารึเปล่าเนี่ย แต่ที่ไหนได้... ไม่มีอะไรในก่อไผ่เลยจริงๆค่ะ~ แต่ก็ยังงงอยู่ดี ก่อนหน้านั้นมีทำท่าแบบนั้นให้เห็นและตบท้ายด้วยการเรียกชื่อเราที่ลงท้ายว่า'ซัง' แต่พอมาวันนี้กลับทำท่าทางกลับเป็นปกติแล้วซะงั้น)
ในวันจริง ปรากฏว่า... โทรุไม่สบายค่ะ!!! ทีนี้ก็เลยกลายเป็นสองต่อสองซะงั้น!!!! แต่ขณะที่เรากำลังจะไปขึ้นลิฟต์ก็มีสาวๆมาขอให้มาซากิคุงช่วย เราก็เลยบอกให้มาซากิคุงไปสอนพวกนั้นก่อนเถอะ แล้วเราจะไปขึ้นลิฟต์เอง มาซากิก็ทำหน้าขอโทษ แล้วก็ไปสอนพวกนั้น
จากนั้นเราก็จะหลงๆนิดๆ เลยไปถามกลุ่มผู้หญิงกลุ่มนึง(ถามใครไม่ถาม ดันไปถามกลุ่มแฟนคลับมาซากิคุง ก็เลยโดนหลอกมา) เขาจะบอกเราผิดให้ไปขึ้นลิฟท์ตัวที่ไปยังเขาที่สูงกว่าสำหรับมือโปร หลังจากนั้นมาซากิคุงก็จะตามมาเจอเราและถามว่ามาที่นี่ทำไม เราก็จะบอกว่าคนอื่นบอกทางมาน่ะ มาซากิก็จะเข้าใจทันทีว่าเราโดนเขาหลอก จากนั้นก็จะเกิดพายุขึ้น(ตามสูตร เหอๆๆ) เรากับมาซากิคุงเลยเข้าไปหลบกันในกระท่อมหลังหนึ่ง แล้วทีนี้ก็จะคุยกันเลยได้รู้ถึงอดีตของมาซากิคุง สาเหตุที่เขากลายเป็นคนที่ไม่เชื่อใจใครก็เพราะโดนเพื่อนสนิทหักหลังสมัยอยู่อเมริกา(มั๊ง? ไม่แน่ใจ เริ่มลืมๆล่ะ แต่คิดว่าอเมริกานะ) ก็นั่นล่ะ คือเพื่อนเขาหนีเอาตัวรอดคนเดียวทิ้งมาซากิคุงเอาไว้ (เป็นเรื่องราวที่ถึงแก่ชีวิตเลยอะไรประมาณนั้น)
หลังจากพายุเริ่มซา เราก็จะออกมากัน ทีนี้รู้สึกว่าเราจะลื่น(มั๊ง? เริ่มลืมๆง่า โทษนะค้า >.< ) มาซากิคุงก็จะมาช่วยเราแล้วก็เลยเป็นฝ่ายเกือบตกหน้าผาแทน เราก็จะยึดแขนเขาไว้ แต่มาซากิคุงจะบอกให้เราปล่อยเขา แต่เราก็จะไม่ปล่อย สุดท้ายก็จะดึงเขาขึ้นมาได้ แล้วมาซากิก็จะว่าเราว่าทำไมไม่ปล่อย บลาๆๆ (เริ่มลืมอีกแล้ว่คะ ^^" ) เราก็จะเทศน์มาซากิไปหนึ่งยก
พอกลับมาถึงที่พัก พวกผู้หญิงที่หลอกเราเขาจะมาขอโทษเรา เราก็จะให้อภัยไป (ก็นางเอกนี่น้า)

ตอนจบ ก็คือบอกรักกันในห้องเรียนสองต่อสองนั่นล่ะค่ะ (เริ่มลืมแล้วง่า ขอโทษนะคะที่บอกเป็นคำพูดไม่ได้) แล้วมาซากิคุงก็จะเริ่มเข้ามารุกเรา เราก็จะห้ามบอกว่ามีคนอื่นอยู่ข้างนอกเยอะแยะ แต่เขาก็จะไม่สนใจ และก็จะเข้ามาจูบเรา ปล่อยให้เราใจเต้นตูมตาม เพราะกลัวคนมาเห็น (ถ้าอยากรู้ว่าจูบกันท่าไหน ไว้เล่นดูเอาเองนะคะ หึๆๆ) และยังบอกอีกว่า ไว้คราวหน้าจะทำในที่ที่ไม่มีคนแล้วกันนะ

ฉากสุดท้ายในอนาคต...
ก็คือเราอยู่ที่ต่างประเทศที่มาซากิมาแข่งฟุตบอล มาฉลองวันคริสมาสต์หรือปีใหม่(มั๊ง ถ้าจำถูก)

ขออภัยด้วยที่ช่วงหลังๆสปอยส์เนื้อเรื่องสั้นๆ แบบว่า ลืมเนื้อเรื่องไปเยอะมากแล้วอ่ะค่ะ ^^"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น